อันเช่ชื่นชมแฟนราชันชุดขาว มีส่วนสำคัญพาทีมคัมแบ็ก

เรอัล มาดริด บุกไปเสมอกับ บาเยิร์น มิวนิค มาก่อน 2-2 ในเกมรอบรองชนะเลิศนัดแรก ทำให้ต้องมาตัดสินกันในเกมนัดที่สองที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยนัดนี้ใครเป็นฝ่ายกำชัยได้ ก็จะลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปเจอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่เอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง มาได้เมื่อวันอังคาร

รูปเกมถือว่าเป็นไปอย่างสูสี และครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 แต่ในครึ่งหลัง กองเชียร์ของ เรอัล มาดริด ก็ต้องเสียวไส้ เมื่อเป็น บาเยิร์น มิวนิค ที่เป็นฝ่ายบุกมาขึ้นนำได้ก่อนจากการยิงของ อัลฟองโซ่ เดวิส ในนาทีที่ 68 ทำให้เจ้าถิ่นไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมบุกเข้าใส่ ขณะที่ทีมเสือใต้ ก็ค่อยๆ ทยอยถอดแนวรุกอย่าง ลีรอย ซาเน่ และ แฮร์รี่ เคน ออก และส่งตัวรับลงมาเพื่อเน้นเกมรับ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 88 โฆเซลู กองหน้าตัวสำรองของ เรอัล มาดริด ที่ถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในช่วง 10 นาทีสุดท้ายจัดการตีเสมอให้กับเจ้าถิ่นจนได้เป็น 1-1 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก เจ้าตัวยังมาทำประตูที่สองให้ "โลส บลังโกส" พลิกแซงนำ 2-1 อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยประตูนี้ยังมีการเช็ควีเออาร์ก่อนด้วยว่าเป็นลูกล้ำหน้าหรือไม่ ก่อนที่ระบบจะให้เป็นประตูกับ เรอัล มาดริด

ช่วงเวลาที่เหลือ บาเยิร์น พยายามหาทางทวงประตูคืนอย่างหนัก แต่ก็ทำอะไรเพิ่มเติมไม่ได้ ทำให้จบเกม เรอัล มาดริด พลิกชนะ 2-1 รวมผลสองนัดชนะไปด้วยสกอร์รวม 4-3 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปเจอกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้สำเร็จ

ทั้งนี้ หลังจบเกม อันเชลอตติ ได้ออกมาเผยว่า กำลังใจจากเหล่ามาดริดิสต้าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ทีมพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะได้ในเกมนี้ โดยกล่าวว่า "มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งในวันนี้ แฟนบอลคอยผลักดันพวกเราในสนามที่สุดมหัศจรรย์ รวมถึงนักเตะก็ไม่เคยหยุดที่จะเชื่อมั่น มันเป็นเรื่องที่วิเศษที่เกิดขึ้นจากสิ่งง่ายๆ"

"พวกเรามีจุดเด่นที่ไม่ค่อยเสียสมาธิในเกมที่ตกเป็นรอง ตอนที่พวกเราเป็นฝ่ายตามหลัง เรายังคงเดินหน้าและมีแฟนบอลคอยช่วยหนุนหลัง และมันเป็นแบบนั้นมาตลอดฤดูกาล แฟนบอลของเรานั้นวิเศษมากๆ และสิ่งนั้นได้ถูกส่งต่อไปยังนักเตะ รวมถึง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ คือผู้นำตัวจริงเขาเป็นประธานสโมสรที่มหัศจรรย์"

"ส่วนแฟนบอลของ เรอัล มาดริด ทั่วโลกที่ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ในคืนนี้ ผมคงต้องขอพูดว่าแฟนบอลในสนามช่วยให้พวกเราคว้าชัยชนะ นี่เป็นธรรมเนียมของเรา พวกเรารักการลงเล่นที่นี่ ในบรรยากาศแบบนี้ เรอัล มาดริด คือครอบครัวและเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีประวัติศาสตร์ มันอาจจะเป็นแรงกดดัน แต่ผมมองว่ามันเป็นเรื่องที่โชคดีอย่างยิ่งที่ได้ทำงานที่นี่"

สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นการพบกันระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ เรอัล มาดริด โดยรอบชิงชนะเลิศจะเล่นกันที่สนามเวมบลีย์ ในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายนนี้