เชลซีเน้นเอฟเอเต็มสูบ จะเปิดบ้านทุบเลสเตอร์ทะลุตัดเชือก

พรีวิวฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบก่อนรองชนะเลิศ
เชลซี พบ เลสเตอร์ ซิตี้
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 19.45 น. อาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีฟอร์มการเล่นที่ถือว่าพอใช้ได้ในช่วงที่ผ่านมา หลังแพ้แค่เกมเดียวจากการลงเล่น 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ ที่เหลือเป็นการเสมอ 2 และชนะได้ถึง 4 เกม ผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไป 3-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เชลซี ก็ยังคงอยู่กลางๆ ตารางเหมือนเดิม โดยมีอยู่ 39 คะแนนจากการลงเล่น 27 นัด รั้งอยุ่อันดับที่ 11 แม้ว่าจะเล่นน้อยกว่าทีมอื่นๆ อยู่ 1 นัด แต่ก็คงไม่ได้ช่วยอะไรในการลุ้นอันดับไปเล่นฟุตบอลยุโรปในปีหน้า ดังนั้น เอฟเอ คัพ คือรายการเดียวที่พวกเขายังเหลือลุ้นความสำเร็จอยู่ในฤดูกาลนี้ และการได้เจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในรอบนี้ ก็เป็นโอกาสดีที่ เชลซี จะคาดหวังถึงการผ่านเข้าไปในรอบรองชนะเลิศ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดของ เชลซี นั้น ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บกันมากมายเหมือนเดิม โดยพวกที่ยังเจ็บอยู่และลงเล่นไม่ได้อย่างแน่นอนนั้นประกอบไปด้วย เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, โรเมโอ ลาเวีย, เบอนัวต์ บาเดียชิล, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์ และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ทำให้เกมนี้ เชลซี จะมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม แนวรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนในเกมรุกอย่าง โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ มีไคโล มูดริค

เลสเตอร์ ซิตี้
ทีมจิ้งจอกสยามที่มีเป้าหมายในการเลื่อนชั้นกลับมาอยู่ในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง มีผลงานที่ยอดเยี่ยมไปเลยในฤดูกาลนี้ โดยพวกเขาคว้าชัยชนะได้แบบรัวๆ และเป็นผู้นำของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ฟอร์มในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเริ่มสะดุดได้อย่างชัดเจน โดยผลงาน 6 เกมหลังสุดในทุกรายการนั้น พวกเขาแพ้ไปถึง 3 นัด ชนะ 2 และเสมอ 1 จากที่ก่อนหน้านี้เคยมีช่วงที่แพ้เกมเดียวจากการลงเล่น 18 เกมติดต่อกัน และในจำนวนนั้นชนะได้ถึง 14 เกม นั่นทำให้ตอนนี้แม้ว่าจะยังคงนำเป็นจ่าฝูงของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จากการเก็บไปแล้ว 82 แต้มจาก 37 เกม แต่ก็ถูกอันดับ 2 อย่าง อิปสวิช ทาวน์ ไล่จี้มาเหลือแค่แต้มเดียวแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จะสำคัญ แต่เชื่อว่า เลสเตอร์ ก็เน้นใน เอฟเอ คัพ ด้วยเช่นกัน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เลสเตอร์ ไม่ค่อยมีปัญหานักเตะบาดเจ็บเท่าไหร่ โดยเกมนี้พวกเขาจะไม่มี วิลเฟร็ด เอ็นดีดี้, เดนนิส ปราต และ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยเกมนี้ เลสเตอร์ จะมาในระบบ 4-3-3 แนวรุกจะใช้งาน 3 ประสานอย่าง มาร์ก อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้ และ วานย่า มาร์ซาล คอยไล่ล่าประตู

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : มาโล กุสโต้, อักเซล ดิซาซี่, เทรโวห์ ชาโลบาห์, มาร์ก กูกูเรย่า : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มีไคโล มูดริค : นิโกล่าส์ แจ็คสัน

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) : ยาคุบ สโตลาร์ซิค : ฮัมซ่า เชาดรี้, คอเนอร์ โคดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, คัลลั่ม ดอยล์ : เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์, อาร์ยัน ไรกี้, ยูนุส อัคกึน : มาร์ก อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้, วานย่า มาร์ซาล

ความน่าจะเป็น : เชลซี เน้นเต็มที่แน่นอน เพราะนี่คือถ้วยสุดท้ายแล้วที่ยังพอมีหวังจะคว้าแชมป์ได้ อีกทั้งเกมนี้ได้เล่นในบ้าน เจอกับ เลสเตอร์ ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับกัวแถวของ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ แต่ เชลซี ก็ยังเหนือกว่ามากอยู่ดี รูปเกมจะเป็นทีมสิงห์บลูส์ที่ครองเกมบุกได้เหนือกว่า และถ้าเกมรับไม่ไปแจกโชคง่ายๆ เลสเตอร์ ก็ยากที่จะทำอะไรได้ สุดท้ายแล้ว เชลซี น่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยไปได้ไม่ยาก ก่อนจะลอยลำเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ต่อไป

สกอร์ที่คาด : เชลซี ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0