ราชันชุดขาวหวังใช้เกมในบ้าน ทุบชนะเชลซีกุมความได้เปรียบเกมแรก

ราชันชุดขาวหวังใช้เกมในบ้าน ทุบชนะเชลซีกุมความได้เปรียบเกมแรก
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก เรอัล มาดริด จากสเปน จะรับการมาเยือนของ เชลซี จากอังกฤษ โดยเกมนี้ เรอัล มาดริด เจ้าถิ่น อาจจะมีฟอร์มระยะหลังไม่ต่อเนื่องเท่าไหร่นัก แต่กับในรายการอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าค่อนข้างหายห่วง ยิ่งต้องมาเจอกับ เชลซี ที่ชั่วโมงนี้เปลี่ยนกุนซือมาเป็น แฟร้งค์ แลมพาร์ด แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ฟอร์มยังขาดๆ หายๆ และล่าสุดพวกเขาก็ไม่ชนะมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว

พรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก
เรอัล มาดริด พบ เชลซี
สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
เวลา : 02:00 น. วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2566 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 608)

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ มีผลงานในระยะหลังไม่ดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มใน ลา ลีกา ที่สะดุดเป็นว่าเล่น โดยผลงาน 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการพวกเขาแพ้ไปถึง 3 เกม เสมอ 1 และชนะ 4 ผลงานในเกมล่าสุดก็แพ้คาบ้านให้กับ บียาร์เรอัล 2-3 นั่นทำให้ตามหลัง บาร์เซโลน่า ในลีกไกลถึง 13 คะแนนเข้าไปแล้วโดยที่เหลือเกมอีกเพียง 10 นัด เรียกได้ว่าโอกาสได้แชมป์ ลา ลีกา นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นในรายการอื่นอย่าง โกปา เดล เรย์ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น ราชันชุดขาวยังคงยอดเยี่ยม โดยใน โกปา เดล เรย์ นั้นพวกเขาล้ม บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศ และผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะเจอกับ โอซาซูน่า ส่วนใน แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมนั้น เรอัล มาดริด ก็ล้ม ลิเวอร์พูล เข้ามาได้ และโคจรมาเจอกับ เชลซี ในรอบ 8 ทีม

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด จะไม่มีเพียงแค่ แฟร์กล็อง เมนดี้ เพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีอาการบาดเจ็บ นอกนั้นไม่มีปัญหา โดยคาดว่าเกมนี้ อันเชตลอตติ จะส่งทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามในระบบ 4-3-3 โดยสามประสานในเกมรุกน่าจะเป็น วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ เหมือนเดิม

เชลซี
เชลซี ประเดิมเกมแรกที่มี แฟร้งค์ แลมพาร์ด เข้ามาเป็นกุนซือชั่วคราวด้วยความพ่ายแพ้ทันที เมื่อบุกไปโดย วูล์ฟแฮมป์ตัน เอาชนะ 1-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เลยทำให้ตอนนี้ เชลซี ไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว และเป็นเกมลีกล้วนๆ โดยเป็นการแพ้ 2 เสมอ 2 ทำให้ตอนนี้ทีมสิงห์บลูส์รั้งอยู่อันดับ 11 ของตารางตามเดิม มีแค่ 39 คะแนนจาก 30 นัด เรียกได้ว่าโอกาสที่จะติดท็อป 4 นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ต่อให้ชนะรวดอีก 8 เกมที่เหลือก็ไม่น่าจะเพียงพอ นั่นหมายความว่าพวกเขาเหลือแค่ แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้นที่ยังมีลุ้นความสำเร็จในปีนี้ แต่เมื่อดูจากความเป็นจริงก็ยังถือว่ายากมากอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมาเจอกับ เรอัล มาดริด ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ในส่วนของสภาพทีม เชลซี จะยังคงไม่มีนักเตะอย่าง อาร์มันโด้ โบรย่า, ติอาโก้ ซิลวา, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ เมสัน เมาท์ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนาม โดยเกมนี้สามประสานในแดนหน้าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ชูเอา เฟลิกซ์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ : ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, นาโช่ เฟร์นานเดซ : ลูก้า โมดริช, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า, โทนี่ โครส : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, คาริม เบนเซม่า, วินิซิอุส จูเนียร์

เชลซี (4-3-3) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : รีซ เจมส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คาลิดู คูลิบาลี่,  เบน ชิลเวลล์ : เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มาเตโอ โควาซิช : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ไค ฮาแวร์ตซ์, ชูเอา เฟลิกซ์

ความน่าจะเป็น : เรอัล มาดริด ยังดูเหนือกว่าพอสมควร แม้ว่าพวกเขาจะมีฟอร์มสะดุดในลีก แต่ถ้าเป็นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วเหมือนเป็นคนละทีม นอกจากนี้เกมแรกที่ได้เล่นในบ้านก่อน น่าจะทำให้ เรอัล มาดริด เน้นสุดๆ เพื่อที่เกมนัดที่สองที่จะไปเยือน เชลซี นั้นไม่ต้องเจอกับงานยากเกินไปนัก เชื่อว่าเกมนี้ทีมราชันชุดขาวจะเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าใส่ได้มากกว่า แม้ว่า เชลซี ชุดนี้จะมีตัวผู้เล่นที่ไม่ธรรมดา แต่ด้วยฟอร์มที่ผ่านมาถือว่าคงเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะบุกมาสร้างเซอร์ไพรส์ในเกมนี้ได้ และด้วยคุณภาพที่เหนือกว่าจะทำให้ เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายชนะไปในเกมนี้แบบไม่ยากนัก

สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด ชนะ เชลซี 3-1

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial