ซาอุดิอาระเบี้ยน กรังด์ปรีซ์ การต่อสู้สุดเซอร์ไพรส์ลำดับที่ 2

หลังจากจบสนามแรกที่ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ เชื่อว่าแฟนๆ ทุกคนคงเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นของการต่อสู้ในศึก ฟอร์มูล่า วัน ฤดูกาลใหม่ การประเดิมอย่างสวยงามของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ทีมเต็งหนึ่ง และ แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน แชมป์โลกสองสมัย ซึ่งออกตัวงดงาม ตามติดด้วย เซอร์จิโอ เปเรซ จบแบบ 1-2 ไม่เหนือความคาดหมาย 

สิ่งที่สร้างความประหลาดใจมากกว่าการเป็นแชมป์ของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง คือความแรงจาก แอสตัน มาร์ติน ผลงานของ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ในรอบคัดเลือกจนถึงรอบโพลชวนให้คิดว่าเดี๋ยวก็คงแผ่วปลาย ไม่น่ามีอะไรแปลกแตกต่าง จากบรรดาทีมระดับกลางส่วนมากที่มาให้ว้าวได้เพียงไม่กี่รอบแล้วจากไป แต่ทุกอย่างกลายเป็นเซอร์ไพรส์ และมันเพิ่งแค่เริ่มต้นเท่านั้น 

การต่อสู้ของท็อป 3+1

เร้ดบูลล์ เรซิ่ง เป็นตัวเต็งอย่างไม่ต้องสงสัย ขณะที่ เฟอร์รารี่ และ เมอร์ซิเดส ยังเป็นทีมที่ไม่มีใครกล้ามองข้ามไม่ว่าผลสนามแรกเป็นอย่างไร แม้มีการจับตาเป็นพิเศษที่ค่ายสีแดงเนื่องจาก พาวเวอร์ยูนิตของ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ เกิดปัญหา ภาพจากซีซั่นที่แล้วย้อนมา เหมือนว่า เฟอร์รารี่ ไม่ได้ดูแลรถและนักขับอย่างที่ควรเป็น แม้มีการเปลี่ยนหัวหน้าทีม ซึ่งดูคล้ายไม่ได้แก้ปัญหาเดิม 

เมอร์ซิเดส ร่วงตกจากบัลลังก์ทีมอันดับ 1 ยาวนาน 8 ปีซ้อน กลายเป็นอันดับ 3 พวกเขากลับมาต่อสู้อีกครั้ง และบรรดารถที่ใช้เครื่องยนตร์เมอร์ซิเดส ก็ทำผลงานได้ไม่เลว แต่กับ W14 ลูอิส แฮมิลตัน แสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่ามีบางอย่างที่ทีมไม่ได้ทำตามอย่างที่เขาร้องขอ และนั้นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมตำแหน่งสุดท้ายบนโพเดียมจึงไม่ใช่ของเขาหรือ จอร์จ รัสเซลล์ 

ซีซั่น 2022 เมอร์ซิเดส ประสบปัญหาอย่างมากเกี่ยวกับระบบของตัวรถและเครื่องยนตร์ กว่าจะทำผลงานได้ดีก็ผ่านไปครึ่งฤดูกาล ช่วงท้ายไล่ทำแต้มไม่ทัน สวนทางกับ เฟอร์รารี่ ที่พุ่งออกตัวแล้วแผ่วลง แต่ถึงอย่างนั้นทั้ง 3 ทีมก็จะเป็นบิ๊กทรีในซีซั่นนี้ โดยมี แอสตัน มาร์ติน เป็นม้ามืด 

แอสตัน มาร์ติน 

ถอยหลังกลับไป 12 เดือนก่อนหน้า แอสตัน มาร์ติน เริ่มต้นฤดูกาลด้วยอาการป่วยของ เซบาสเตียน เว็ทเทล ทำให้ นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก ได้แทนที่ร่วมกับ แลนซ์ สตรอลล์ และปิดซีซั่นในอันดับ 7 กลางตารางค่อนไปทางท้าย แต่ที่ บาห์เรน พวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์สุดขีด ในรอบซ้อมและรอบคัดเลือก อันดับที่ดีของ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ดูเหลือเชื่อ และคงไม่มีใครคาดคิดว่าสีเขียวมรกตจะมาแรงจนถึงตำแหน่งโพเดียม 

แอสตัน มาร์ติน เป็นทีมที่ทำความเร็วอย่างมีพัฒนาการมากที่สุดเมื่อเทียบปี 2022 และ 2023 นับเป็นเวลาได้ 2.411 วินาทีต่อรอบ รองลงมาคือ วิลเลี่ยมส์ 1.203 วินาทีต่อรอบ และ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ที่แรงมากแล้ว ก็แรงขึ้นอีก 0.973 วินาทีต่อรอบ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จ มาจาก แดน แฟลโลวส์ หัวหน้าทีมเทคนิค ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแอโรไดนามิคหรือหลักการอากาศพลศาสตร์ที่เป็นเหมือนมือขวาของ เอเดรียน นิวอี้ ผู้ออกแบบและหนึ่งในทีมบริหารที่ผู้คนรู้จักกันทั่วของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง แฟลโลวส์ อยู่กับทีมสัญชาติออสเตรียมาตั้งแต่ปี 2006 ตอนนี้เขาข้ามค่ายมีสวมสีเขียวมรกตตั้งแต่เดือนเม.ย. 2022 หลังจากเรียนรู้ทีมอยู่ 6 เดือน AMR23 ก็กลายเป็นผลงานชิ้นเอกนอกร่มเงาของ เร้ดบูลล์ 

แม้ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ตำหนิว่า AMR23 คือรถเลียนแบบ RB18 ที่ เร้ดบูลล์ เรซิ่งใช้คว้าแชมป์เมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่สหพันธ์ยานยนตร์นานาชาติตรวจสอบแล้ว ไม่มีความผิดอะไร หรือกระทั่ง เปเรซ ก็ยังพูดแรงๆ ว่า “มีรถ เร้ดบูลล์ 3 คันอยู่บนโพเดียม แอสตัน มาร์ติน โยนความเย่อหยิ่งทิ้งไปพร้อมกับเวลาและความพยายามที่เคยลงทุนมา จากนั้นตัดสินใจใช้เวลาทดสอบรถที่บาร์เซโลน่าทั้งหมด ไปกับรถเลียนแบบ เร้ดบูลล์ ซึ่งทำให้คคนส่วนมากของทีม เร้ดบูลล์ ผิดหวัง” แถมยังอวยพรส่งท้ายว่า ก็เหมือนที่ ทีมฮาส เคยก็อปปี้ เฟอร์รารี่ ยืมแบบมาแต่ดันตั้งเครื่องไม่เป็น ! 

และดราม่ารถเลียนแบบคงดำเนินต่อไปจนจบฤดูกาล 

รุกกี้อันดับหนึ่ง 

เป็นเรื่องน่าเสียดายเล็กน้อย ที่บรรดารุกกี้ไม่มีใครได้คะแนนจากสนามเปิดฤดูกาล ออสการ์ ปิอัสตรี ที่มาพร้อมกับศึกชิงตัวของค่าย แม็คลาเรน ไม่สามารถแข่งจนจบ หลังจากนำรถเข้าพิตแล้วจอดอยู่นาน ในที่สุดก็ถอยเข้าอู่ ออกจากการแข่งขัน ส่วนนักขับหน้าใหม่ประสบการณ์สูงอย่าง นิค เดอ ฟรีส จบเป็นอันดับ 14 ให้กับ อัลฟ่าทอรี

อันดับ 12 โลแกน ซาร์เจนท์ เด็กหนุ่มอเมริกันสร้างเซอร์ไพรส์ที่สุด ซึ่งอย่างที่พอทราบกันว่าผลงานอันดับ 4 ในเรซสุดท้ายของ ฟอร์มูล่า 2 ทำให้ลุ้นตัวโก่งสอบผ่านคาบเส้นขึ้นมาสู่รุ่นใหญ่ และอย่างที่ได้บอกสถิติการทำเวลาต่อรอบที่เร็วขึ้นของแต่ละทีม วิลเลี่ยมส์ ก็ดูจะออกตัวได้ดีไม่เบา 

นอกจากนี้ ถ้านำรถของทั้ง แม็คลาเรน อัลฟ่าทอรี และ วิลเลียมส์ มาลองบวกลบหาค่าเฉลี่ยอันดับที่น่าจะทำได้ คนที่มาแรงสุดๆ อาจอยู่เหนือความคาดหมายไปอีก ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่มีใครรู้ได้นอกจากต้องติดตามใน ซาอุดิ อาระเบี้ยน กรังด์ปรีซ์ เริ่มรอบซ้อม เวลา 20.30 น. วันที่ 17 มี.ค. นี้ ต่อด้วยรอบคัดเลือก 00.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค. และรอบสุดท้าย 00.00 น. 20 มี.ค. ทางช่อง บีอินสปอร์ตส์1 (607)