เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจาก ดันแคน คาสเซิ่ลส์ นักข่าวจาก ซันเดย์ ไทม์ส และ เดลี่ เรคคอร์ด ว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้แจ้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าเขาต้องการย้ายทีม เนื่องจากยังต้องการเล่นในรายการอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า เพราะบางทีนี่อาจจะเป็นช่วงท้ายๆ ของอาชีพการค้าแข้งของเขาแล้ว และเขายังต้องการที่จะไล่ล่าความสำเร็จอยู่
แน่นอนว่าในทีแรกที่ คาสเซิ่ลส์ รายงานข่าวนี้ออกมาผ่านทาง เดอะ ไทม์ส นั้น สำหรับคนที่ตามข่าวจากบรรดาสื่อในอังกฤษเป็นประจำ จะรู้กันดีว่า ดันแคน คาสเซิ่ลส์ ถูกจัดว่ามีความน่าเชื่อถือในระดับที่ต่ำมากๆ ถ้าพูดกันในแบบสมัยนี้ก็คืออยู่ในระดับ Tier 4-5 หมายความว่าการรายงานข่าวของเขานั้นแทบจะไม่มีใครให้ราคานั่นเอง
แต่ถ้าใครตามลึกกว่านั้นจะรู้ความจริงอยู่ข้อหนึ่ง นั่นคือ คาสเซิ่ลส์ มีความสนิทสนมกับ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์ส่วนตัวของ โรนัลโด้ มากๆ และถ้าเป็นข่าวอะไรก็ตามที่มาจากทาง เมนเดส หากว่าเป็น คาสเซิ่ลส์ รายงานเรียกได้ว่ามักเป็นเรื่องจริงเสมอ หรือพูดง่ายๆ ก็คือสื่อรายนี้เป็นเหมือนกระบอกเสียงของ จอร์จ เมนเดส ก็ไม่ผิด
และในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน เพราะหลังจากที่ คาสเซิ่ลส์ รายงานข่าวนี้ออกไป เพียงแค่ไม่กี่อึดใจ บรรดาสื่อดังๆ ที่ได้การยอมรับว่ามีความน่าเชื่อถือมากๆ อาทิ เดวิด ออร์นสตีน จาก ดิ แอธเลติก, ฟาบริซิโอ โรมาโน่ สายข่าวเจ้าของวลี Here we go และที่สำคัญสุดสำหรับนักข่าวสาย แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง ไซม่อน สโตน แห่ง บีบีซี ที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับว่าถ้าหากเขารายงานข่าวไหนเอง ข่าวนั้นแทบจะไม่มีทางผิดพลาดไปได้...
บรรดาสื่อที่ว่าต่างรายงานเหมือนกันว่า โรนัลโด้ ได้ขอย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ เป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่าถ้าเป็นข่าววงในเกี่ยวกับ จอร์จ เมนเดส นั้น ดันแคน คาสเซิ่ลส์ ยังเชื่อถือได้เสมอ
ที่นี้ในส่วนของรายละเอียดข่าวนั้น ระบุว่า โรนัลโด้ ได้บอกกับทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าเขาต้องการย้ายทีม โดยเจ้าตัวได้ให้เหตุผลว่ายังคงรักสโมสรเหมือนเดิม และยังแคร์ความรู้สึกของแฟนบอลปีศาจแดงมากๆ แต่ตัวเขายังอยากเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก และต้องการต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ในช่วงสุดท้ายของอาชีพการเล่น
โรนัลโด้ ได้มีการบอกกับสโมสรว่า หากว่ามีข้อเสนอที่ดีเข้ามา ก็อยากจะให้ช่วยพิจารณาด้วย ซึ่งตอนนี้จากการรายงานของ ดิ แอธเลติก อ้างว่ามี เชลซี กับ นาโปลี ที่แสดงความสนใจอย่างจริงจัง แต่ท่าทีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้นั้นยังไม่ต้องการที่จะปล่อยดาวเตะโปรตุเกสรายนี้ออกจากทีม
พูดถึง เชลซี แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อนเพิ่งมีรายงานออกมาจาก ดิ แอธเลติก ว่า จอร์จ เมนเดส ได้มีการนัดพบกับ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของคนใหม่ของ เชลซี เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ โรนัลโด้ จะย้ายไปเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพียงแต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการพูดคุยเท่านั้น
แต่มาถึงวันนี้ น่าจะชัดเจนแล้วว่า โบห์ลี่ย์ สนใจอยากดึง โรนัลโด้ ไปอยู่กับ เชลซี จริงๆ แต่จะทำได้หรือไม่นั้นยังไม่สามารถฟันธงได้ เพราะเชื่อว่าระดับ โรนัลโด้ แม้ว่าจะอายุ 37 ปีแล้ว แต่เชื่อว่าคงไม่ใช่แค่ทีมสองทีมที่ให้ความสนใจเขาอยู่ และการย้ายไปเล่นให้ทีมอื่นในพรีเมียร์ลีกนั้น อาจจะยังไม่อยู่ในออปชั่นของ โรนัลโด้ หากว่าเขาสามารถเลือกได้
เพราะถ้าเขาย้ำว่ายังรัก แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนเดิม ก็ไม่น่าย้ายไปเล่นให้ทีมอื่นในอังกฤษได้อย่างง่ายดายนัก...
ทั้งนี้ นอกจาก เชลซี และ นาโปลี ที่ถูกรายงานว่าแสดงความสนใจอย่างจริงจังแล้ว อีกทีมที่จะยังมองข้ามไปไม่ได้คือ บาเยิร์น มิวนิค ที่ดูเหมือนว่า จอร์จ เมนเดส มีการส่งข้อมูลไปให้ทีมเสือใต้เช่นกัน หากว่าสนใจจะใช้บริการของ โรนัลโด้
สอดคล้องกับที่ทีมเสือใต้กำลังมีโอกาสที่จะเสีย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไปให้กับ บาร์เซโลน่า หลังนักเตะออกมายืนยันว่าไม่ต้องการเล่นให้กับ บาเยิร์น อีกต่อไปแล้ว แต่ปัญหาสำคัญก็คือเรื่องค่าตัวที่ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ เพราะ บาเยิร์น ตั้งราคากองหน้าทีมชาติโปแลนด์ไว้สูงถึง 60 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่า เลวานดอฟสกี้ ได้ย้ายออกไปจริงๆ และ บาเยิร์น ได้ โรนัลโด้ เข้ามายืนหน้าเป้า ก็น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัว แม้ว่าทีมจะเพิ่งไปคว้า ซาดิโอ มาเน่ มาจาก ลิเวอร์พูล ก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะอดีตกองหน้าหงส์แดงสามารถเล่นเป็นกองหน้าฝั่งซ้ายในระบบ 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ได้อยู่แล้ว
จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ จึงเป็นที่ชัดเจนว่า โรนัลโด้ ต้องการย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จริงๆ แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับทางทีมปีศาจแดง เพราะ โรนัลโด้ ยังเหลือสัญญากับทีมอีก 1 ปี จะให้ย้ายออกไปฟรีๆ คงไม่ได้ คล้ายกับทางฝั่ง บาเยิร์น มิวนิค ที่ก็ไม่ยอมให้ เลวานดอฟสกี้ ย้ายฟรีๆ เพราะยังเหลือสัญญาอีก 1 ปีเช่นกัน
ทีนี้ลองมาวิเคราะห์กันว่าจะมีทางเป็นไปได้หรือไม่ว่า โรนัลโด้ จะยังอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อ...
เหตุผลข้อแรกที่ง่ายที่สุดก็คือ โรนัลโด้ ยังเหลือสัญญาอีก 1 ปี หากว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยซะอย่าง เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ในฐานะที่เป็นมืออาชีพแล้ว โรนัลโด้ คงต้องลงเล่นต่อไปจนกว่าจะครบสัญญา
แต่ในความเป็นจริงมันคงไม่ง่ายแบบนั้น โอเคว่า แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถที่จะเก็บนักเตะไว้กับทีมต่อไปได้ แต่ถ้า โรนัลโด้ ไม่มีใจจะเล่นต่อแล้วจริงๆ การเก็บเอาไว้ต่อไปก็อาจจะไม่ส่งผลดีไม่ว่าจะกับใครก็ตาม ดังนั้นถ้าปล่อยออกไปพร้อมกับได้ค่าตัวกลับมา ก็อาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับทุกฝ่าย
ประเด็นนี้ทาง ไซม่อน สโตน จาก บีบีซี ก็มีพูดเอาไว้เช่นกัน โดยในมุมของของนักข่าวรุ่นใหญ่อย่างเขานั้นคิดว่า การที่ โรนัลโด้ ย้ายออกไปก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าเขายังสามารถประสบความสำเร็จใจระดับสูงสุดได้ แม้ว่าจะอายุ 37 ปีแล้วก็ตาม ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะได้เริ่มต้นใหม่จริงๆ ในยุคที่มี เอริค เทน ฮาก เป็นกุนซือ และยังทำให้ เทน ฮาก สามารถที่จะเลือกใช้งานนักเตะในแผนการเล่นแบบที่เขาต้องการ โดยที่ไม่ต้องเกรงใจใครในห้องแต่งตัว
หรือในอีกกรณีก็คือ มีคนตั้งข้อสังเกตว่า การที่อยู่ดีๆ โรนัลโด้ มาขอย้ายทีมในตอนนี้ ดูจะเป็นไทม์มิ่งที่ไม่ค่อยเมคเซนส์สักเท่าไหร่นัก
เหตุผลก็เพราะเรารู้กันมาตั้งแต่วันที่จบฤดูกาลแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ถ้าเขาอยากจะย้ายเพราะเหตุผลนี้ ก็ควรรีบแจ้งสโมสรตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่ทีมจะได้รีบมองหาตัวแทน ไม่ใช่มาบอกในตอนที่ทีมกำลังจะเข้าสู่ช่วงปรีซีซั่น
นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังเคยให้สัมภาษณ์ในตอนที่สโมสรประกาศแต่งตั้ง เอริค เทน ฮาก ใหม่ๆ ว่า เขาตื่นเต้นที่จะได้ทำงานกับกุนซือชาวดัตช์รายนี้ ทั้งชื่นชมว่ามีประสบการณ์ พร้อมทั้งอวยพรให้ เทน ฮาก ทำงานกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ดี ทุกๆ คนในทีมมีความสุขและตื่นเต้นกันมาก ไม่ใช่แค่เพียงนักเตะแต่แฟนบอลก็เช่นเดียวกัน และเชื่อมั่นว่าทีมจะสามารถมีลุ้นแชมป์ในฤดูกาลหน้าได้
มันจึงดูเหมือนมีอะไรแอบแฝง บางทีการออกมาประกาศแบบนี้ หมายความว่า โรนัลโด้ กำลังต้องการต่อรองอะไรกับสโมสรอยู่หรือไม่ เหมือนอย่างที่เขาเคยทำบ่อยครั้งสมัยอยู่กับ เรอัล มาดริด
อาจจะไม่ใช่เรื่องของค่าเหนื่อย เพราะปัจจุบันมีรายงานว่าเจ้าตัวรับค่าเหนื่อยกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงสัปดาห์ละ 500,000 ปอนด์ แต่อาจจะเป็นการกระตุ้นทีมให้รีบดำเนินการเสริมทัพให้เร็วขึ้นทางอ้อมหรือเปล่า เพราะเจ้าตัวยังมีการให้เหตุผลกับทีมในเรื่องการขอย้ายอีกข้อด้วยว่า เขารู้สึกไม่เชื่อมั่นในทีมที่มีในตอนนี้ และไม่คิดว่าทีมจะมีลุ้นความสำเร็จอะไรในปีหน้า...
ก็เป็นเรื่องที่แฟนบอลอาจจะสามารถคิดเข้าข้างตัวเองได้ และจินตนาการกันไป อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับมามองความจริงที่เกิดขึ้น การที่ โรนัลโด้ ขอย้ายนั้นเป็นเรื่องจริง และการที่เขาอยากจะประสบความสำเร็จต่อไปในช่วงปลายอาชีพของเขานั้น ก็น่าจะเป็นเรื่องจริงเช่นกัน เพราะ โรนัลโด้ เป็นแบบนี้อยู่เสมอ เขาต้องการเป็นผู้ชนะ เขาต้องการยิงประตู เขาต้องการได้แชมป์ให้มากที่สุด เขาต้องการเป็นผู้ที่จารึกประวัติศาสตร์ ซึ่งถ้าใครรู้จัก โรนัลโด้ จะรู้ว่าเขาเป็นแบบนั้นมาตลอด
ดังนั้น โอกาสที่ โรนัลโด้ จะไม่อยู่กับทีมต่อในตอนนี้ ถือว่ามีเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าอยู่ต่อค่อนข้างมาก และถ้าหากเจ้าตัวตัดสินใจย้ายออกไปจริงๆ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องคิดเร็วทำเร็วกับการมองหากองหน้าคนใหม่เข้ามา ซึ่งก็มีรายงานจาก เดอะ มิร์เรอร์ ระบุว่า เทน ฮาก อยากให้ทีมรีบไปดึง ตัว อันโตนี่ กองหน้าชาวบราซิลของ อาแจ็กซ์ อดีตลูกทีมของเขาเข้ามาเป็นตัวแทนของ โรนัลโด้ โดยเร็ว
คิดๆ แล้วก็น่าเห็นใจ เทน ฮาก ไม่น้อยเช่นกัน เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะมีแต่ความขลุกขลัก มองไปตรงไหนก็ดูไม่ราบรื่น จะซื้อนักเตะใหม่แต่ละทีก็ต้องคุยแล้วคุยอีก เฟรงกี้ เดอ ยอง จะย้ายมาหรือไม่ก็ยังตอบไม่ได้, คริสเตียน เอริคเซ่น ที่สามารถเซ็นฟรี นักเตะก็ยังไม่ตัดสินใจสักทีว่าจะเอายังไง จนถึงตอนนี้มีแค่ ตีเรลล์ มาลาเซีย คนเดียวที่คอนเฟิร์มแล้วว่าได้ตัว แต่ก็เป็นนักเตะในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งอันที่จริงไม่ใช่ตำแหน่งแรกๆ ที่ทีมปีศาจแดงอยากซื้อมากที่สุดในซัมเมอร์นี้ด้วยซ้ำ
เทียบกับทีมอื่นๆ แล้วมันช่างตรงกันข้ามราวฟ้ากับเหว เพราะในช่วงเวลาเดียวกัน ลิเวอร์พูล สามารถแก้ไขปัญหาที่คาราคาซังมานานด้วยการยอมประเคนค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เพื่อต่อสัญญากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นักเตะที่ดีที่สุดของทีมออกไปได้อีก 3 ปี แต่ในทางกลับกัน แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะเสียกองหน้าที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลที่ผ่านมาของทีมออกไป และยังไม่รู้เลยว่าจะได้ใครเข้ามาเป็นตัวแทน...
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial