กางโปรแกรมพรีเมียร์ลีก 22/23 "ปีศาจแดงหวั่นตุลาคมหฤโหด"

ดังนั้นการมาของ เทน ฮาก ซึ่งมีผลงานที่โดดเด่นมากๆ กับ อาแจ็กซ์ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายฝ่ายจับตามองมากที่สุด ไม่รวมถึงการเสริมทัพและการเปลี่ยนแปลงนักเตะภายในทีม ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะที่ตบเท้าออกจากทีมไปแล้วจนถึงตอนนี้ก็ไม่น้อยกว่า 5 คน ไม่ว่าจะเป็นพวกที่หมดสัญญาอย่าง ปอล ป๊อกบา, เจสซี่ ลินการ์ด และ เอดินสัน คาวานี่ หรือพวกที่ไม่ใช้ออปชั่นต่อสัญญาเพิ่มอย่าง ฆวน มาต้า และ เนมานย่า มาติช และในอนาคตอันใกล้ก็อาจจะมีย้ายออกไปอีก

สิ่งที่น่ากังวลของพวกเขาคือการเสริมนักเตะใหม่เข้ามา เพราะจนถึงตอนนี้ทีมปีศาจแดงยังไม่มีวี่แววว่าจะได้นักเตะใหม่เข้ามาร่วมทีมเลยแม้แต่รายเดียว แม้จะมีข่าวว่าสนใจ เฟรงกี้ เดอ ยอง และ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ สองนักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ แต่ก็ยังไม่สามารถปิดดีลได้ ขณะที่ คริสเตียน เอริคเซ่น ที่หมดสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด และมีรายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอให้นักเตะพิจารณาไปแล้วนั้น ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันก็จะเข้าสู่ช่วงเก็บตัวปรีซีซั่นในฤดูกาลใหม่แล้ว

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งปัญหาข้อใหญ่ที่ทีมงานของปีศาจแดงต้องรีบแก้ไขให้ได้โดยเร็ว หากว่าพวกเขาหวังที่จะทำผลงานกลับไปติดท็อป 4 อีกครั้ง ซึ่งเป็นงานที่ไม่ง่ายเลย 

[พรีเมียร์ลีก 5 เกมแรกของทีมปีศาจแดง ต้องเจอลิเวอร์พูลเร็วไปหน่อย]

โปรแกรม 5 นัดแรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น ไม่ถึงกับยากแต่ก็ไม่ง่าย เนื่องจากมีคิวต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เกมนัดที่ 3 ของฤดูกาล ยังดีที่อีก 4 เกมที่เหลือไม่ได้เจอกับคู่แข่งที่ยากเกินไปนัก แต่ปัญหาคือนอกจากที่ต้องเจอกับทีมหงส์แดงเร็วไปหน่อยแล้ว ยังต้อเล่นเกมเยือน 3 จาก 5 เกม นั่่นแปลว่าถ้าหากว่า เทน ฮาก ใช้เวลาในการลองผิดลองถูกอยู่นาน และออกสตาร์ทได้ไม่ดี นี่จะเป็นซีซั่นที่ยากลำบากทันทีของพวกเขา

สองเกมแรกดูไม่น่าเป็นเกมที่ยากมากเท่าไหร่ ถ้าว่ากันตามมาตรฐานและเป้าหมายที่ทีมหวังจะกลับไปติดท็อป 4 ให้ได้อีกครั้ง การต้องเจอกับทีมอย่าง ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด คงไม่สามารถมองว่าเป็นเกมที่ยากเกินไปได้ ส่วนการพบกับ ลิเวอร์พูล ข้อดีคือการได้เล่นในบ้าน และถ้ามองในแง่บวก ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลแบบนี้ที่สภาพร่างกายยังสดอยู่ อาจจะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด พอจะมีโอกาสดึงแต้มจาก ลิเวอร์พูล ได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็จะเป็นเกมที่ยากมากๆ อย่างแน่นอน

ส่วนอีกสองเกมที่เหลือที่ต้องออกไปเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน และ เลสเตอร์ ซิตี้ ถือว่าไม่ยากไม่ง่าย ขึ่นอยู่กับฟอร์มการเล่นในวันนั้น ถ้าหากว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นอย่างมีสมาธิ และยกระดับการเล่นขึ้นมาจากเมื่อปีก่อนได้ ก็มีลุ้นที่จะได้ 3 คะแนนทั้งสองเกมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ใน 5 เกมนี้ ถ้าทีมปีศาจแดงซึ่งมีปัญหาสะสมมาจากเมื่อปีก่อน สามารถเก็บได้ไม่น้อยกว่า 10 แต้ม ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว 

[โปรแกรมพรีเมียร์ลีก 2022-23 ทั้ง 38 นัดของ แมนฯ ยูไนเต็ด]

สิงหาคม

- ไบรท์ตัน (เหย้า)

- เบรนท์ฟอร์ด (เยือน)

- ลิเวอร์พูล (เหย้า)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)

กันยายน

- อาร์เซน่อล (เหย้า)

- คริสตัล พาเลซ (เยือน)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เหย้า)

ตุลาคม

- แมนฯ ซิตี้ (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เยือน)

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า)

- เชลซี (เยือน)

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เหย้า)

พฤศจิกายน

- แอสตัน วิลล่า (เยือน)

- ฟูแล่ม (เยือน)

ธันวาคม

- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า)

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (เยือน)

มกราคม

- บอร์นมัธ (เหย้า)

- แมนฯ ซิตี้ (เหย้า)

- อาร์เซน่อล (เยือน)

กุมภาพันธ์

- คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

- ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (เหย้า)

- เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)

มีนาคม

- ลิเวอร์พูล (เยือน)

- เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)

- ไบรท์ตัน (เยือน)

เมษายน

- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)

- เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)

- น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน)

- เชลซี (เหย้า)

- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เยือน)

- แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

พฤษภาคม

- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน)

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

- บอร์นมัธ (เยือน)

- ฟูแล่ม (เหย้า)

[วิเคราะห์ความยากของโปรแกรม]

โดยภาพรวมแล้วถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมที่ดีกว่าเมื่อฤดูกาลก่อน เพราะมีช่วงที่ต้องเจอเกมยากติดๆ กันไม่มากเกินไป ที่เป็นข้อสังเกตคือการที่ต้องโคจรมาเจอกับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เกมนัดที่ 3 เท่านั้น ซึ่งถือว่าอาจจะเจอกันเร็วไปนิด ต่อด้วยการเจอกับ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน แต่การที่มีทีมที่เบากว่ามาคั่น ทำให้การจัดการทีมไม่น่าจะยากเกินไปนัก

ที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดคือโปรแกรมในช่วงเดือนตุลาคม ที่น่าจะเป็นช่วงที่หฤโหดของทีมปีศาจแดงมากที่สุดแล้วในซีซั่นนี้ เพราะทั้ง 6 เกมในเดือนนี้ต้องเจอกับเกมที่จัดว่ายากเกือบทั้งหมด แถมยังต้องเล่นเกมเยือน 3 เกมติด ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเยือน แมนฯ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด หลังจากนั้นจะกลับมาเล่นในบ้านเจอ สเปอร์ส ต่อด้วยเยือน เชลซี และปิดท้ายเดือนนี้ด้วยการรับมือ เวสต์แฮม จะเห็นได้ว่าเป็นเกมที่สามารถแพ้ได้แทบจะทุกเกม ถ้าหากว่า เทน ฮาก โรเตชั่นทีมไม่ดี มีสิทธิ์เจอกับความกดดันเล่นงานอย่างแน่นอน

ในทางกลับกัน หากว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ประคองตัวเองผ่านเดือนตุลาคมมาได้แบบที่ไม่บอบช้ำเกินไปนัก พวกเขาจะเจองานเบาๆ ไปพักใหญ่ ก่อนที่ในเดือนมกราคมจะมีคิวเจอกับ อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้ 2 เกมติด ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ยากที่สุดอีกช่วงหนึ่ง แต่ก็ไม่หนักเท่ากับเดือนตุลาคม

หลังจากนั้น ปีศาจแดงจะไม่เจอเกมยากรุมกระหน่ำติดๆ กันแล้ว จะมีอีกครั้งก็ในช่วงเดือนเมษายนที่ต้องเจอกับ เชลซี และ สเปอร์ส ต่อเนื่องกัน แต่ก็มีเกมเบาๆ มาคั่นให้ได้เก็บแต้ม ก่อนที่ในเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วง 4 เกมสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด จะไม่ต้องเจอกับทีมระดับบิ๊ก 6 แล้วในช่วงนั้น และทั้ง 4 เกมก็เจอกับคู่แข่งที่ไม่หนักเท่าไหร่ด้วย หากว่าเป็นช่วงเวลาที่ต้องการแต้มเพื่อเร่งเครื่องในการลุ้นท็อป 4 แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีโอกาสทำได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล