หลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศจบลง หากว่าใครเป็นแฟนลิเวอร์พูล นอกจากความผิดหวังที่ไม่สามารถคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 7 มาครองได้แล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่เชื่อว่าเหล่า "เดอะ ค็อป" ต้องติดตามกันต่อคืออนาคตของ ซาดิโอ มาเน่ ว่าตกลงแล้วเจ้าตัวจะออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ว่าจะย้ายออกจากทีมแน่ๆ ในช่วงซัมเมอร์นี้
เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ข่าวเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นการรายงานจากสื่อที่ค่อนข้างเชื่อถือได้ก็ตาม แต่ตราบใดที่ มาเน่ ยังไม่ออกมาประกาศด้วยตนเอง แฟนหงส์บางส่วนก็ยังแอบลุ้นอยู่ว่าเจ้าตัวอาจจะเปลี่ยนใจต่อสัญญาใหม่ และอยู่กับทีมต่อไปก็ได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ มาเน่ ยังไม่ทันได้เคลียร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมากลับมีอีกข่าวที่กลบกระแสเรื่องของ มาเน่ ไปเสียมิด นั่นคือเรื่องของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่มีรายงานข่าวระบุว่า กองหน้าทีมชาติอียิปต์ไม่ปิดโอกาสในการย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก หากว่าสัญญาของเขากับ ลิเวอร์พูล หมดลงในเดือนมิถุนายนปี 2023
แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นข่าวที่ไม่มีใครสนใจ ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะว่าคนที่รายงานข่าวนี้คือ เจมส์ เพียร์ซ ผู้สื่อข่าวสายลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันอยู่กับ ดิ แอธเลติก สำนักข่าวที่น่าเชื่อถือมากอีกแห่งหนึ่งของอังกฤษ
สำหรับแฟนบอลหงส์แดงแล้ว จะมีนักข่าวแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่แฟนๆ ยกให้เป็นระดับ Tier 1 หรือกลุ่มที่เชื่อถือได้มากที่สุด และ เพียร์ซ ซึ่งในอดีตเคยสังกัด ลิเวอร์พูล เอคโค่ มาก่อน ถูกยกให้เป็นหนึ่งในนั้น
ข่าวที่เขารายงาน ถ้าเกี่ยวกับ ลิเวอร์พูล แล้วล่ะก็ จัดว่า insider มากที่สุดคนหนึ่ง และบ่อยครั้งที่เป็น "จอมดับเทียน" กล่าวคือถ้าหากว่ามีรายงานข่าวจากที่ไหนระบุว่า ลิเวอร์พูล กำลังจะได้นักเตะคนนั้นคนนี้ ให้แฟนๆ ที่กำลังเสพข่าวได้ชุ่มชื่นหัวใจว่าทีมรักกำลังจะได้นักเตะใหม่มาเสริมทัพนั้น เพียร์ซ มักจะออกมาทวีตข้อความในทวิตเตอร์ของเขาเพื่อดับฝันแฟนๆ ลิเวอร์พูล ว่าสโมสรไม่ได้กำลังจะซื้อนักเตะคนที่กำลังเป็นข่าวเสียหน่อย และถ้าเป็นแบบนั้นเมื่อไหร่ก็เชื่อขนมกินได้เลยว่ามันจะไม่ผิดไปจากนั้น
ดังนั้น จากข่าวล่าสุดที่ เพียร์ซ ลงมือเขียนข่าวเองในเว็บไซต์ของ ดิ แอธเลติก มันจึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ เพราะด้วยเครดิตที่ตัวเขามี อยู่ดีๆ คงไม่เอาชื่อเสียงของตัวเองเต้าข่าวขึ้นมาเพื่อเรียกยอด ให้แฟนบอลได้ตามมาด่าเขาย้อนหลังได้อย่างแน่นอน ถ้าหากว่าสิ่งที่เขารายงานนั้นไม่เป็นความจริง
จากรายงานข่าวของ เพียร์ซ ระบุว่า ถ้าหากว่า ลิเวอร์พูล ให้สัญญาใหม่ในแบบที่ ซาลาห์ ต้องการไม่ได้ ดาวยิงทีมชาติอียิปต์ก็พร้อมที่จะเล่นให้กับทีมต่อในฤดูกาลหน้าซึ่งเป็นปีสุดท้ายในสัญญาของเขา ก่อนที่จะย้ายออกไปแบบฟรีๆ ในปี 2023 โดยที่ไม่ปิดโอกาสที่จะเล่นให้กับทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกต่อไป
แน่นอนว่าถ้าเป็นไปตามรายงานนี้จริง แฟนหงส์ส่วนใหญ่คงไม่โอเคแน่ เพราะการย้ายไปเล่นให้ทีมอื่นในพรีเมียร์ลีกในมุมมองของ ซาลาห์ น่าจะมีเพียงไม่กี่ทีมเท่านั้น คงยังต้องเป็นทีมใหญ่เหมือนกันและมีสถานะลุ้นแชมป์ อาจจะต้องอยู่ในระดับท็อป 6 ของลีก
อย่างไรก็ตาม เอาเข้าจริงๆ อาจจะมีแค่สองทีมเท่านั้นที่เป็นไปได้ ที่เหลือน่าจะตัดออกไปได้เลย ซึ่งสองทีมที่ว่านั้นน่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ หรือ เชลซี เท่านั้น ซึ่งถ้าหากว่า ซาลาห์ ย้ายแบบหมดสัญญาไปเล่นให้สองทีมนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่ ลิเวอร์พูล ยื่นดาบให้ศัตรู เพราะนี่คือทีมที่แย่งแชมป์กับหงส์แดงโดยตรงใน พ.ศ. นี้
ถึงแม้ว่าในเดือนมิถุนายน 2023 ซาลาห์ จะมีอายุ 31 ปีแล้ว แต่ถ้าย้ายแบบไม่มีค่าตัว เชื่อว่าน่าจะยังมีหลายทีมให้ความสนใจแน่ๆ แต่ถ้าหากว่าจะมีทีมไหนที่จ่ายค่าเหนื่อยในระดับที่ ซาลาห์ ต้องการได้ ก็คงมีแค่ ซิตี้ กับ เชลซี เท่านั้น ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด คงต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะ ซาลาห์ คงไม่บ้าจี้ย้ายไปเล่นให้ทีมปีศาจแดงแน่ๆ หากว่าไม่อยากมีชะตากรรมเหมือน ไมเคิ่ล โอเว่น...
ทีนี้มาพูดถึงเรื่องค่าเหนื่อย ตรงนี้ เพียร์ซ รายงานไว้น่าสนใจ เพราะเขาระบุว่า ลิเวอร์พูล ยอมเพิ่มค่าเหนื่อยให้ ซาลาห์ ในสัญญาฉบับใหม่ขึ้นจากเดิมเพียง 15% เท่านั้น และจะไม่มากไปกว่านี้ ซึ่งถ้าดูจากค่าเหนื่อยปัจจุบันของ ซาลาห์ ที่รับอยู่สัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์แล้ว นั่นหมายความว่าทีมหงส์แดงให้ค่าเหนื่อยในสัญญาใหม่เพียงสัปดาห์ละ 230,000 ปอนด์เท่านั้น
อาจจะกลายเป็นคนที่ได้ค่าเหนื่อยแพงที่สุดในทีมก็จริง (ปัจจุบัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ คือคนที่ได้เยอะสุดที่ 220,000 ปอนด์) แต่สำหรับตัวเลขเพียงเท่านี้ มันน้อยกว่าที่ ซาลาห์ เรียกร้องมากพอสมควร
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจนถึงตอนนี้ การต่อสัญญาของ ซาลาห์ จึงไม่มีความคืบหน้าเสียที เพราะ เพียร์ซ ระบุว่า ซาลาห์ ต้องการได้ค่าเหนื่อยระดับท็อป 6 ของโลก ซึ่งถ้าคำนวณดูแล้ว แพงที่สุดในโลกตอนนี้คือ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เพิ่งต่อสัญญาใหม่กับ เปแอสเช ไปหมาดๆ ไล่เรียงลงมาก็เป็นพวก ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เควิน เดอ บรอยน์ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซึ่งสองรายหลังมีรายงานว่าได้ค่าเหนื่อยระดับ 400,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ดังนั้นถ้าเป็นไปตามที่ข่าวรายงาน แสดงว่า ซาลาห์ น่าจะขอค่าเหนื่อยในสัญญาฉบับใหม่ที่ราวๆ 350,000-375,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เขามีรายได้สมน้ำสมเนื้อกับบรรดาซูเปอร์สตาร์ระดับโลก และแน่นอนว่า ซาลาห์ ย่อมมองว่าตัวเองสมควรที่จะได้ค่าจ้างในระดับนั้น หากว่ามองจากผลงานที่เขาทำให้กับ ลิเวอร์พูล ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าว ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะยอมให้ตามที่ขอ เพราะถ้าตกลงกันได้ป่านนี้คงต่อสัญญากันไปนานแล้ว ไม่ต้องยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้...
เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล มีทางเลือกเหลือเพียงสองทาง ทางเลือกแรกคือยอมให้ตามที่ ซาลาห์ ต้องการและต่อสัญญาใหม่ออกไป กับอีกทางก็คือรีบขายเอาเงินเสียตั้งแต่ซัมเมอร์นี้ ก่อนที่จะต้องเสียฟรีไปให้ทีมร่วมลีกอื่นในปีหน้า ซึ่งถ้าขายตอนนี้เลย ถึงจะเหลือสัญญาแค่ปีเดียว แต่เชื่อว่าอย่างแย่ๆ ซาลาห์ ก็น่าจะมีค่าตัวไม่น้อยกว่า 70-80 ล้านปอนด์ หรืออาจจะเรียกได้สูงกว่านั้นก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเก่งกาจของทีมงานซื้อขายหงส์แดง
อย่างไรก็ดี บางทีมันอาจจะเป็นแค่เกมในการต่อรองในการขอสัญญาใหม่ของ ซาลาห์ เท่านั้น เพราะต่อให้หมดสัญญาจริงๆ เขาอาจจะไม่ทำร้ายจิตใจแฟนบอล และเเลือกย้ายไปเล่นในลีกต่างแดนก็เป็นได้ แต่การที่ เพียร์ซ รายงานข่าวออกมาแบบนี้ แปลว่าเขาน่าจะรู้อะไรบางอย่างมา ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าเขียนข่าวที่ระบุข้อมูลชัดเจนแบบนี้
หากว่าทุกอย่างเป็นไปตามรายงานข่าวจริงๆ การเลือกที่จะขาย ซาลาห์ ออกไปตั้งแต่ตอนนี้เลย บางทีอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าก็เป็นได้ เพราะไม่ช้าก็เร็ว ซาลาห์ ก็ต้องย้ายออกไปอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นตลาดหน้าร้อน ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ ถ้าหากว่า ลิเวอร์พูล ขายทั้ง มาเน่ และ ซาลาห์ ออกไป ได้เงินกลับมารวมกันไม่น้อยกว่า 120 ล้านปอนด์ บวกกับงบประมาณบางส่วนที่มีอยู่เดิม อาจจะได้แนวรุกระดับขึ้นห้างและอายุน้อยกว่าเข้ามาทดแทนก็เป็นได้ อาทิ ดาร์วิน นูนเญซ ของ เบนฟิก้า และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ของ ไลป์ซิก ที่มีข่าวว่า ลิเวอร์พูล กำลังสนใจอยู่ในตอนนี้
ต้องรอดูกันต่อไปว่าหลังจากนี้สถานการณ์ของ ซาลาห์ จะเป็นอย่างไร จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากว่าไม่เปลี่ยน และ ลิเวอร์พูล ยอมปล่อยให้เจ้าตัวเล่นในปีสุดท้ายจนกระทั่งหมดสัญญา หากว่า ซาลาห์ เลือกทำอย่างที่รายงานข่าวว่ามาจริงๆ คือเลือกย้ายไปทีมอื่นๆ ในพรีเมียร์ลีกแบบไร้ค่าตัว นั่นก็เป็นเพราะว่า ลิเวอร์พูล ยอมปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเอง ทั้งๆ ที่พวกเขามีทางเลือกที่จะทำให้ทีมได้ผลประโยชน์มากกว่านี้...
ภาพจาก Getty Images
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial