เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล สุดปลื้มฟอร์มลูกทีมที่บุกไปเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ 2-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้ายเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่มีการโรเตชั่นเปลี่ยนทีมจากนัดล่าสุดถึง 9 ราย อย่างไรก็ตาม กุนซือหงส์แดงยังเชื่อว่าโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้นเป็นเรื่องยากมาก แม้ว่าจะยังพอมีโอกาสก็ตาม
ในเกมที่สนาม เซนต์ แมรี่ส์ ลิเวอร์พูล บุกมาเยือนด้วยเงื่อนไขที่ต้องชนะเพียงสถานเดียวเท่านั้น ถ้าหากว่ายังต้องการที่จะมีลุ้นแชมป์ในวันสุดท้ายของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องมีการโรเตชั่นทีมเนื่องจากกรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่อง และในเกมนี้ได้ตัดสินใจเปลี่ยนนักเตะถึง 9 ตำแหน่งจากเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยให้นักเตะอย่าง โจ โกเมซ, โฌแอล มาติป, คอสตาส ซิมิกาส, เคอร์ติส โจนส์, เจมส์ มิลเนอร์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ดีโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ทาคูมิ มินามิโนะ ได้โอกาสลงสนาม
ทำให้เป็นเกมนี้เป็นเกมที่ไม่ง่าย แถม เซาธ์แฮมป์ตัน ยังออกนำไปก่อนจากการยิงไกลสุดสวยของ เนธาน เร้ดมอนด์ ในนาทีที่ 13 อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอได้จาก ทาคุมิ มินามิโนะ นาทีที่ 27 ก่อนจะมีได้ประตูชัยในครึ่งหลังจาก โฌแอล มาติป นาทีที่ 67 ทำให้จบเกม หงส์แดงทำได้ตามเป้าหมาย เอาชนะไป 2-1 ทำให้ยังมีลุ้นในวันสุดท้ายของฤดูกาล โดยพวกเขาต้องเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ให้ได้ และลุ้นให้ แมนฯ ซิตี้ ที่นำหน้าอยู่ 1 แต้ม ไม่ชนะ แอสตัน วิลล่า
หลังจบเกม คล็อปป์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "สิ่งที่พวกเขาทำมันน่าเหลือเชื่อมากๆ และมันก็เป็นอะไรที่พิเศษ ผมคิดว่าเราเล่นได้ยอดเยี่ยมนะ แม้ว่าจะเปลี่ยนทีมถึง 9 ตำแหน่ง"
"ผมยอมรับว่ามันเป็นความผิดไม่น้อยที่ ทาคิ (ทาคุมิ มินามิโนะ) ได้ลงเล่นน้อยเกินไปก่อนหน้านี้ รวมถึง ฮาร์วีย์ (เอลเลียตต์) และ เคอร์ติส (โจนส์) พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้มีเกมลงสนามมากนัก แต่พวกเขาก็สามารถช่วยทีมได้ มันน่าเหลือเชื่อมาก และเราคงจะมีปัญหามากกว่านี้ หากว่าเรายังคงใช้ทีมชุดที่เล่นมา 120 นาทีเต็มเมื่อวันเสาร์"
"เกมนี้เราทำได้ดีมากๆ และที่ผลออกมาเป็นแบบนี้ก็เป็นเพราะจากตัวนักเตะเอง แต่ถ้าหากเราไม่ชนะ มันก็เป็นตัวผมที่ต้องรับผิดชอบ"
ขณะเดียวกัน คล็อปป์ ยังยอมรับด้วยว่า โอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกนั้น ยังพอมี แต่เป็นเรื่องยากมาก เพราะ แมนฯ ซิตี้ คงไม่ทำพลาดในวันสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แอสตัน วิลล่า คู่แข่งของ ซิตี้ มีโปรแกรมต้องเล่น 2 เกมในรอบ 3 วัน
"แน่นอนว่ามันคงไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ (ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก) เพราะ แมนฯ ซิตี้ ได้เล่นในบ้านและเจอกับ แอสตัน วิลล่า ที่ต้องเล่นในเกมวันพฤหัสบดีมาก่อนหน้านั้น แถมคู่แข่งคือ เบิร์นลี่ย์ ที่ยังต้องสู้เพื่อหนีตกชั้น ดังนั้นมันจะเป็นเกมที่หนักและสร้างความลำบากให้ วิลล่า"
"แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล เพราะตอนที่ ซิตี้ ได้แชมป์ (เมื่อปี 2019) ก็เป็นเพราะว่า 11 มิลลิเมตรนั้น (แมนฯ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 โดยมีจังหวะที่ จอห์น สโตนส์ สกัดบอลที่อีกนิดเดียวจะข้ามเส้นประตู) ดังนั้นหากว่าเราอยากเป็นแชมป์ ก็ต้องชนะให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ลุ้นให้ แอสตัน วิลล่า ไม่แพ้ ซิตี้ ซึ่งมันก็มีความเป็นไปได้ แต่ในความเป็นจริงคงยาก"
ภาพจาก True Visions
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial