เรือใบสีฟ้าปะทะหงส์แดง ต่างฝ่ายหวังชนะเพื่อโอกาสคว้าแชมป์ลีก

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

เวลา : 22:30 น. วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565 (True Premier Football 1, 2)

แมนฯ ซิตี้

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีสะดุดไปบ้าง แต่ตอนนี้เหมือนว่า แมนฯ ซิตี้ จะกลับมามีสมาธิอีกครั้ง หลังจากที่ 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการพวกเขาไม่แพ้ใครเลย โดยเป็นการชนะไป 6 และเสมอ 2 นอกจากนี้ยังชนะมาต่อเนื่อง 3 เกมติดต่อกันทั้งในเอฟเอ คัพ, พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยผลงานเกมล่าสุดคือการเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 1-0 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ทำให้ตอนนี้ทีมเรือใบสีฟ้ายังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ 

ในส่วนของสภาพทีม แมนฯ ซิตี้ จะขาดผู้เล่นสำคัญอย่าง รูเบน ดิอาส เพียงรายเดียวที่่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา โดยการจัดทีมน่าจะเป็นทีมที่คล้ายกับเกมที่พวกเขาเอาชนะ แอต. มาดริด มาได้ในเกมล่าสุด แต่จะได้ ไคล์ วอล์คเกอร์ กลับมาประจำการในตำแหน่งแบ็กขวาเพิ่มอีกราย เรียกได้ว่ามีทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์มากทีเดียว

ลิเวอร์พูล

ทีมหงส์แดงยังคงฟอร์มแรงไม่เลิก หลังชนะมา 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ นอกจากนี้ ยังแพ้ไปแค่เกมเดียวเท่านั้นจากการลงสนาม 21 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ที่เหลือคือเสมอ 2 และชนะอีก 18 เกม เรียกได้ว่าแข็งแกร่งสุดๆ ส่วนผลงานในลีกอย่างเดียวนั้น พวกเขาชนะมา 10 เกมติดต่อกันแล้ว และยังไม่เห็นวี่แววว่าจะสะดุดได้ง่ายๆ ขณะที่ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปชนะ เบนฟิก้า ได้ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเกมแรก ด้วยสกอร์ 3-1

ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล มีทีมที่สมบูรณ์สุดๆ ไม่มีใครบาดเจ็บหรือว่าติดโทษแบนเลยแม้แต่รายเดียว โดยเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามแบบเต็มพิกัด หลังมีการพักตัวจริงบางรายไว้ในเกมที่บุกไปเยือน เบนฟิก้า เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา กันเซโล่ : เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิล โฟเด้น, แจ็ค กรีลิช

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันตาร่า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่อาจจะสามารถตัดสินแชมป์กันได้เลย หากว่ามีผลแพ้ชนะเกิดขึ้น แต่ แมนฯ ซิตี้ ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบมากกว่าเล็กน้อย เพราะยังสามารถเล่นเพื่อเสมอได้ ขณะที่ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ถ้าได้แค่เสมอ อาจจะยังไม่ถึงกับหมดลุ้นแชมป์ซะทีเดียว แต่โปรแกรมที่เหลือจะดูยากกว่าทางฝั่ง ซิตี้ ทำให้เกมนี้ 3 คะแนนจะสำคัญกับทาง ลิเวอร์พูล มากกว่า อย่างไรก็ตาม รูปเกมที่ออกมาน่าจะเป็นเกมที่ทั้งสองฝ่ายน่าจะเล่นแบบระมัดระวังตัว เพราะคงไม่มีใครอยากแพ้ และถ้าต้องจบลงด้วยการเสมอกันจริงๆ ก็ยังเหลือโปรแกรมอีกถึง 7 เกมให้ไปลุ้นกันต่อ และอาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในช่วงนั้นก็เป็นได้

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1