เดลี่ เมล์ สื่อชื่อดังในประเทศอังกฤษ ตัดเกรดประเมินผลงานของบรรดานักเตะพรีเมียร์ลีก ที่ย้ายทีมในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา
เป็นเวลาผ่านไปราวๆ 2 เดือนเต็มแล้วหลังจากที่ตลาดซื้อ-ขาย นักเตะรอบสองของทางฝั่งยุโรป ในช่วงเดือนมกราคมปิดตัวลงไป โดยหลายสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีการโอนย้ายถ่ายเทนักเตะหลายต่อหลายราย ซึ่งก็มีทั้งประสบความสำเร็จและยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
ล่าสุด เดลี่ เมล์ สื่อชื่อดังในประเทศอังกฤษ ออกมาประเมินผลงานของหลายๆดีลที่น่าสนใจที่แต่ละทีมคว้าตัวไปร่วมทัพในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ละคนจะมีผลงานเป็นอย่างไรและได้กันไปกี่คะแนน ไปติดตามกัน
- หลุยส์ ดิอาซ (10 คะแนนเต็ม)
เป็นดีลที่ได้รับคำชื่นชมมากๆทั้งทีมงานแมวมองรวมถึงตัวนักเตะที่สามารถเล่นเข้ากับระบบของทีมชนิดที่แทบไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย โดยแข้งทีมชาติโคลอมเบีย ย้ายจากสโมสรปอร์โต้ ในลีกโปรตุเกส มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในช่วงเดือนมกราคม จนถึง ณ เวลานี้ เขาลงสนามในพรีเมียร์ลีก ไปแล้วถึง 6 เกม และสามารถทำได้ 2 ประตู (ลงสนาม 12 เกมรวมทุกรายการ) ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ประเดิมคว้าแชมป์แรกกับทัพหงส์แดงในศึกลีกคัพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (9/10 คะแนน)
อดีตดาวยิงของลิเวอร์พูล ย้ายจากบาร์เซโลน่า มาร่วมทีมแอสตัน วิลล่า ในฐานะสัญญายืมตัวภายใต้การคุมทัพของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตเพื่อนร่วมทีมเก่าของตัวเอง และก็เหมือนเป็นการช่วยให้แข้งรายนี้กลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้งจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่ นับตั้งแต่ย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ไปร่วมทีมบาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 120 ล้านปอนด์ ซึ่งการกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก อีกครั้งเขาก็ระเบิดฟอร์มเก่งด้วยการซัดไป 4 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ จากการลงสนามไป 10 นัด และแน่นอนว่าทางฝั่ง แอสตัน วิลล่า ก็กำลังพิจารณาที่จะซื้อขาดแข้งวัย 29 ปี รายนี้มาร่วมทีมแบบถาวร โดยมีค่าตัวอยู่ที่ราวๆ 33 ล้านปอนด์
- เดยัน คูลูเซฟสกี้ (8/10 คะแนน)
ในช่วงตลาดซื้อ-ขายเดือนมกราคมของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสปอร์ กำลังจะหมดลงท่ามกลางความผิดหวังที่พลาดได้ตัวทั้ง อดาม่า ตราโอเร่ และ หลุยส์ ดิอาซ แต่บทสรุปสุดท้าย อันโตนิโอ คอนเต้ ก็โล่งใจไปได้ในระดับหนึ่งเพราพวกเขาหันไปคว้าตัว เดยัน คูลูเซฟสกี้ แข้งทีมชาติสวีเดน มาจากยูเวนตุส ด้วยสัญญายืมตัว มันทำให้พวกเขามีเกมริมเส้นที่หวือหวามากขึ้นจากผลงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมของแข้งรายนี้ ด้วยการซัดไป 2 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์ อย่างไรก็ตาม คอนเต้ มั่นใจว่านี่ยังไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดของแข้งวัย 21 ปี รายนี้ เพราะเขาจะยกระดับการเล่นของตัวเองได้สูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าในอนาคต
- แดน เบิร์น (8/10 คะแนน)
หลังย้ายจาก ไบร์ทตัน ไปอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ก็ทำให้เกมรับของทีมดูมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยแข้งวัย 29 ปี รายนี้เข้าไปมีส่วนสำคัญในการพลิกสถานการณ์จากที่ต้องดิ้นรนหนีตายในโซนตกชั้น กลายเป็นหลุดพ้นขึ้นไปอยู่ในโซนปลอดภัย ซึ่งนับตั้งแต่ที่กองหลังรายนี้ย้ายเข้ามา นิวคาสเซิ่ล เสียไปเพียงแค่ 7 ประตูเท่านั้น จากทีมที่เคยมีเกมรับเป็นจุดอ่อนมาโดยตลอด และเหนือสิ่งอื่นใดการเข้ามาของเขายังช่วยสอดประสานทำให้ ฟาเบียน แชร์ กับ จามาล ลาสเซลล์ส เล่นได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
- แมตต์ ทาร์เกตต์ (8/10 คะแนน)
ย้ายจาก แอสตัน วิลล่า ไปอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนจะกลายเป็นกำลังหลักในทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว จากฟอร์มการเล่นที่ทำได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเจ้าตัวได้ลงสนามไปแล้ว 7 นัด ในฐานะตัวจริงทั้งหมด จากผลงานของแบ็กซ้ายรายนี้ทำให้เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากแฟนบอลให้ทีมเดินหน้าคว้ามาร่วมทัพแบบถาวรหลังจบฤดูกาลนี้
- คีแรน ทริปเปียร์ (7/10 คะแนน)
จากสถานการณ์ของ นิวคาสเซิ่ล ที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นกับการรั้งอยู่กับดับที่ 17 ของตาราง ก่อนที่จะเดินหน้าเสริมทัพในช่วงตลาดหน้าหนาว เริ่มต้นด้วยการคว้าตัว คีแรน ทริปเปียร์ แบ็กขวาดีกรีทีมชาติอังกฤษ จากสโมสรแอตเลติโก มาดริด มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ และแม้ว่าแข้งรายนี้จะได้ลงสนามช่วยทีมไปเพียง 4 เกม แต่ก็ยังผลิตสกอร์ให้ทีมไปถึง 2 ประตู และทำให้เกมทางฝั่งขวาดูมีความดุดันมากขึ้น ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกจนต้องพักยาว ทำให้ไม่ได้ลงพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้นก็ถือเป็นการเสริมทัพที่ยกระดับทีมได้อย่างแท้จริง
- คริสเตียน อีริคเซ่น (7/10 คะแนน)
แข้งทีมชาติเดนมาร์ก กลับสู่วงการฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง หลังจากประสบปัญญาภาวะหัวใจหยุดเต้น ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 ด้วยการเซ็นสัญญาร่วมทีมเบรนท์ฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาติเดียวกันอย่าง โธมัส แฟรงค์ ที่ไม่ได้รีบร้อนในการส่งเจ้าตัวลงเล่นแบบทันทีทันใด และค่อยๆให้เขาสร้างความฟิตและปรับตัวในการฝึกซ้อม ก่อนจะได้โอกาสลงสนามในฐานะตัวสำรองในเกมเจอกับนิวคาสเซิ่ล จากนั้นก็ได้ออกสตาร์ทตัวจริงในอีก 2 เกมต่อมากับ นอริช ซิตี้ และ เบิร์นลี่ย์ ซึ่งก็มีส่วนสำคัญในการพาทีมเก็บชัยชนะได้ทั้งสองนัด ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมกับนอริช ซิตี้ และจัด 1 แอสซิสต์ในเกมกับเบิร์นลี่ย์ จากผลงานที่เกิดขึ้นส่งผลให้เขาถูกเรียกตัวกลับไปติดทีมชาติเดนมาร์กอีกครั้ง นับตั้งแต่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น
- บรูโน กิมาไรส์ (7/10 คะแนน)
แข้งสัญชาติบราซิลรายนี้ต้องรอเวลาถึง 6 เกม กว่าจะได้ลงประเดิมสนาม แต่พอได้โอกาสก็สามารถทำผลงานได้อย่างร้อนแรง หนึ่งในนั้นคือการตอกส้นทำประตูให้ทีมเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ช่วยให้ทีมยังรักษาพื้นที่ปลอดภัยเอาไว้ได้ โดยกุนซืออย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ออกมาชื่นชมแข้งค่าตัว 40 ล้านปอนด์รายนี้ว่ามีความสามารถที่คาดไม่ถึง
- โรดริโก้ เบนตันกูร์ (7/10 คะแนน)
แข้งสัญชาติอุรุกวัยรายนี้ย้ายจาก ยูเวนตุส มาร่วมทีมท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ก่อนจะช่วยให้แดนกลางของทีมดูมีความแข็งแกร่งและเล่นได้อย่างมีมิติมากขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่ช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะ เวสต์แฮม 3-1 ในศึกลอนดอนดาร์บี้ แถมเป็นเกมสำคัญในการแย่งพื้นที่ท็อปโฟร์ นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่จัดการกองกลางของคู่แข่งที่มีทั้ง ดีแคลน ไรซ์ รวมถึง โทมัส ซูเช็ก ได้อย่างหมดจด
- ลูกาส์ ดีญ (6/10 คะแนน)
ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไปร่วมทัพ แอสตัน วิลล่า ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ก่อนจะได้โอกาสลงสนามไปถึง 8 นัด และช่วยซัดประตูชัยใส่ทีมเก่าของตัวเอง จากนั้นเขาก็มาโชคร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย ทำให้พลาดลงสนามช่วยทีม แจ่ก็คาดการณ์กันว่าเขาจะกลับมาลงเล่นอีกครั้งหลังกลับมาจากพักเบรกฟีฟ่าเดย์
- คาลัม แชมเบอร์ส (6/10 คะแนน)
ย้ายจากอาร์เซน่อล ไปอยู่กับแอสตัน วิลล่า ในช่วงก่อนสัญญาจะหมดหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ซึ่งภายหลังจากที่เขาไม่สามารถสอดแทรกตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของอาร์เซน่อลได้ แต่กลับกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในถิ่นวิลล่า กับการเบียดตำแหน่ง เอซรี่ คอนซ่า และได้ลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 6 เกม
- วูต เวกฮอร์สต์ (5/10 คะแนน)
ย้ายจาก โวล์ฟบวร์ก ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน มาร่วมทีมเบิร์นลี่ย์ ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขาย ก่อนจะออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรงด้วยการทำไป 1 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ ในช่วง 4 เกมแรก แต่หลังจากนั้นผลงานของแข้งชาวเนเธอร์แลนด์ รายนี้ก็ค่อยๆดร็อปลงไป และไม่มีส่วนกับประตูของทีมเลย นับตั้งแต่เกมที่เอาชนะ ไบร์ทตัน 3-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์
- คริส วู้ด (5/10 คะแนน)
ถูกนิวคาสเซิ่ล ทุ่มเงิน 25 ล้านปอนด์ คว้าตัวมาร่วมทีม แต่กลับกลายเป็นว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง ทั้งๆที่ได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกเกมภายใต้การคุมทัพของ เอ็ดดี้ ฮาว แต่ก็ไม่ได้ถึงกับล้มเหลวอะไรขนาดนั้น เพราะถึงแม้จะไม่ได้ผลิตสกอร์ให้ทีมถล่มทลาย แต่เขาก็ถือว่ามีส่วนที่เข้ามาแล้วช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะ 6 จาก 10 นัด และแพ้ไปแค่ 2 เกม ในยามที่เขาลงสนาม อย่างไรก็ตามเขาต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ได้ในเรื่องของการทำประตูและช่วยเกมรุกตามที่ถูกคาดหวัง
- ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค (4/10 คะแนน)
การย้ายทีมของ ฟาน เดอ เบค หวังที่จะลบล้างความผิดหวังในถิ่น"ปีศาจแดง" แต่กลับกลายเป็นว่าสถานการณ์ของแข้งรายนี้กลับเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าในแง่ของการได้โอกาสลงสนามจะดีขึ้น แต่ผลการแข่งขันของทีมกลับสวนทางกัน หนำซ้ำยังถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ราวๆ 1 ชั่วโมงของเกมที่พ่าย สเปอร์ 5-0 เท่ากับว่า เอฟเวอร์ตัน ชนะได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นในตอนที่มี ฟาน เดอ เบค ลงสนาม หลังจากนี้เป้าหมายเดียวของเขาคือต้องพยายามช่วยทีมให้ได้มากที่สุดเพื่ออยู่รอดบนลีกสูงสุดต่อไป
- เดเล่ อัลลี่ (3/10 คะแนน)
ย้ายจาก สเปอร์ มาอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน แบบไม่มีค่าตัว แต่กลายเป็นอีก 1 ดีลน่าผิดหวังสำหรับทีม เพราะนับตั้งแต่ย้ายเข้ามาเขายังไม่สามารถออกสตาร์ทเป็นตัวจริงได้เลย พอได้โอกาสถูกเปลี่ยนตัวลงไปก็บ่งบอกถึงสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการลงเล่นครั้งสุดท้ายคือเกมที่เจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน แถมมีสถิติที่เลวร้ายเอาชนะคู่แข่งไปได้แค่ครั้งเดียวจากทั้งหมด 8 ครั้ง รวมถึงการถูกจับล้ำหน้าไป 3 ครั้ง
- วิตาลี ไมโคเลนโก (3/10 คะแนน)
หลังแบ็กซ้ายรายนี้ย้ายจาก ดินาโม เคียฟ มาสู่ เอฟเวอร์ตัน เขาก็แทบจะไม่ได้ถูกใช้งานเลย โดยได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ไปเพียงแค่ 3 นัด เพราะโดยส่วนใหญ่ แฟร้ง แลมพาร์ด จะเลือกใช้งาน จอนโจ เคนนี่ ที่ตามตำแหน่งเล่นแบ็กขวามายืนทางซ้ายแทน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะลงเล่นในเวทียูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับทีมเก่า และถูกดึงตัวมาร่วมทีมเพื่อหวังจะแทนตำแหน่งของ ลูกาส์ ดีญ แม้จะมีสถานการณ์บ้านเมืองมารบกวนจิตใจ แต่ก็ดูจะต้องใช้เวลาปรับตัวสักระยะ
รายการถ่ายทอดสดทรูวิชั่นส์
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial