สื่ออังกฤษชี้เกลเซอร์โอเค เซอร์จิมซื้อผี 25 เปอร์เซ็นต์

สื่ออังกฤษชี้เกลเซอร์โอเค เซอร์จิมซื้อผี 25 เปอร์เซ็นต์
สื่อในอังกฤษแทบทุกสำนัก ไม่ว่าจะเป็น บีบีซี, สกาย สปอร์ตส์, เดอะ ไทม์ส และ เดลี่เมล์ รายงานตรงกันว่า เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีชาวอังกฤษ และเจ้าของบริษัทปิโตรเคมียักษ์ใหญ่ บรรลุข้อตกลงในการซื้อหุ้นของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปครอบครองราว 25 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่กลุ่มทุนจาก กาตาร์ ที่นำโดย ชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ได้ขอถอนตัวจากความพยายามในการเข้าเทคโอเวอร์ทีมปีศาจแดงไปเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากที่ตระกูลเกลเซอร์ เจ้าของทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ชาวอเมริกัน ได้ประกาศขายสโมสรมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ก็ได้รับความสนใจอย่างจริงจังจากมหาเศรษฐีสองราย นั่นคือ ชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี จาก กาตาร์ และ เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ เจ้าของบริษัทปิโตรเคมียักษ์ใหญ่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างประกาศตัวว่าเป็นแฟนบอล "เร้ด เดวิลส์" ตัวยงด้วยกันทั้งคู่

อย่างไรก็ตาม การเจรจาเพื่อเข้าเทคโอเวอร์ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้น กลายเป็นความยืดเยื้อที่กินเวลายาวนานกว่า 9 เดือน เนื่องจากตระกูลเกลเซอร์ ที่นำโดย โจเอล และ อัฟราม เกลเซอร์ ไม่ยอมขายทีมออกไปในราคาที่ต่ำกว่า 6 พันล้านปอนด์ หรือราว 264,000 ล้านบาท ทำให้การเจรจาหยุดชะงักและไม่มีความคืบหน้า

จนกระทั่งเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมามีรายงานว่า กลุ่มทุนจาก กาตาร์ ได้ประกาศขอถอนตัวที่จะเข้าซื้อกิจการของทีมปีศาจแดงเรียบร้อยแล้ว หลังความพยายามครั้งสุดท้ายที่เพิ่มข้อเสนอขึ้นมาในระดับ 5.5 พันล้านปอนด์ หรือราว 242,000 ล้านบาท ยังคงถูกตระกูลเกลเซอร์ปฏิเสธไป เนื่องจากยังไม่ใช่ราคาที่พวกเขาพอใจ

นั่นทำให้การถอนตัวของ กาตาร์ กลายเป็นการเปิดทางให้ เซอร์ จิม แร็ทคลิฟฟ์ มีโอกาสมากกว่าเดิมทันที ก่อนที่ล่าสุดหลายๆ สื่อก็รายงานตรงกันว่า มหาเศรษฐีชาวอังกฤษวัย 70 ปี ได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าครอบครองหุ้นของทีมปีศาจแดงเป็นจำนวน 1 ใน 4 หรือราว 25 เปอร์เซ็นต์เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเชื่อกันว่าความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกของการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าจะได้รับการยืนยันในการประชุมคณะกรรมการบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสัปดาห์หน้า

ก่อนหน้านี้ เซอร์ จิม ก็เป็นอีกคนที่มีความพยายามที่จะขอซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของทีมรักของตนเองด้วยเช่นกัน แต่เมื่อดูจากท่าทีของตระกูลเกลเซอร์ ที่ยังคงมีความต้องการที่จะรักษาความเป็นเจ้าของทีมปีศาจแดงเอาไว้ นั่นทำให้เจ้าของบริษัทปิโตรเคมียักษ์ใหญ่อย่าง INEOS ปรับเปลี่ยนกลยุทธด้วยการขอซื้อหุ้นราว 25 เปอร์เซ็นต์แทน ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เงินราว 1.5 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 66,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่การใช้เงินระดับ 6 พันล้านปอนด์ ตามที่ตระกูลเกลเซอร์ต้องการ แต่นั่นก็จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นเมื่อได้ เซอร์ จิม เข้ามาร่วมลงทุน พร้อมทั้งจะยังทำให้ตระกูลเกลเซอร์ยังคงความเป็นเจ้าของทีมปีศาจแดงต่อไป ซึ่งจะทำให้พวกเขายังคงได้รับเงินปันผลในทุกๆ ปีได้เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เซอร์ จิม ยังคงมีเป้าหมายที่จะครอบครอง แมนฯ ยูไนเต็ด แบบ 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้มหาเศรษฐีชาวอังกฤษจะยังคงพยายามตามซื้อหุ้นของสโมสรไปเรื่อยๆ จนกว่าที่จะได้เป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวในที่สุด

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial