เทน ฮาก ลั่นผีกำลังกลับมา หลังคว้าโทรฟี่แรกมาครองได้

แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้งหลังการมาของ เทน ฮาก โดยกุนซือดัตช์ได้เข้ามาปฏิวัติหลายอย่างภายในทีม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสไตล์การเล่น, ความมีวินัยของนักเตะ และความกระหายในชัยชนะ ก่อนที่จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ จนผลงานขึ้นมาติดลมบนในที่สุด

โดยผลงานในพรีเมียร์ลีกนั้นรั้งอยู่อันดับ 3 อย่างเหนียวแน่น และมีลุ้นแชมป์อยู่ลึกๆ ขณะที่ฟุตบอลถ้วยรายการอื่นก็ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เรียบร้อย, เอฟเอ คัพ ที่ผ่านเข้ามาถึงรอบที่ 5 และ คาราบาว คัพ ที่ล่าสุดเพิ่งจะเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 ได้แชมป์มาครองในที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นแชมป์แรกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบ 6 ปีและเป็นโทรฟี่แรกในยุคของ เทน ฮาก อีกด้วย ทั้งๆ ที่เพิ่งจะเข้ามาเป็นกุนซือเพียงปีแรกเท่านั้น

ทั้งนี้ เทน ฮาก ได้เผยหลังพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครองได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นในการกลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะอยู่ โดยกล่าวว่า "อันดับแรกคุณจำเป็นต้องชนะให้ได้ก่อน และนั่นคือสิ่งที่เราทำในวันนี้ มันจะกลายเป็นแรงบันดาลใจ และทำให้เรามีความเชื่อว่าเราสามารถทำได้"

"เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นฟู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้กลับไปอยู่ในจุดที่พวกเขาควรอยู่ นั่นคือการคว้าแชมป์ และนี่ก็คือถ้วยแรก"

"บรรดานักเตะมีความเชื่อมโยงกัน นอกจากนี้พวกเขายังท้าทายซึ่งกันและกันอีกด้วย บรรยากาศในห้องแต่งตัวเป็นอะไรที่ดีมากๆ ทุกคนต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และนั่นเป็นสิ่งดีที่สุดที่ผู้จัดการทีมจะได้รับ"

"นักเตะอย่าง ราฟาแอล วาราน, กาเซมิโร่ และ ดาบิด เด เคอา ต่างรู้วิธีที่จะคว้าแชมป์ และคุณก็ต้องการนักเตะแบบนี้ในสนามเพื่อที่จะคอยชี้นำผู้เล่นคนอื่นๆ พวกเขาเหล่านี้มีทัศนคติแห่งชัยชนะ ซึ่งมันสามารถนำเข้าไปในห้องแต่งตัว รวมถึงนำมาใช้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำสำเร็จแล้ว"

ทั้งนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมเดียวในอังกฤษที่ยังคงมีลุ้นทั้ง 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยในพรีเมียร์ลีกมีแต้มตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูงอยู่ 8 แต้มจากการลงเล่น 24 เกมเท่ากัน ขณะที่ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก พวกเขาจะได้เจอกับ เรอัล เบติส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และในเอฟเอ คัพ รอบที่ 5 จะได้เจอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งสองทีมดังกล่าวถือว่าเป็นคู่แข่งที่ยังอยู่ในข่ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะสามารถเอาชนะได้ไม่ยากจนเกินไปนัก