สเปอร์สหวังเปิดบ้าน เล่นงานเชลซีที่ยังฟอร์มบู่ไม่เลิก

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ พบ เชลซี
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม
เวลา : 20.30 น. วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

สเปอร์ส
ทีมไก่เดือยทองกลายเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ในช่วงนี้ หลังแพ้มา 2 เกมติดต่อกันในทุกรายการ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ชนะมา 3 เกมติดต่อกัน แต่ในเกมล่าสุดก็กลับมาชนะได้อีกแล้ว ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 เรียกได้ว่าช่วงนี้สามารถชนะหรือแพ้ได้แทบจะทุกเกม โดยถ้าดูฟอร์ม 8 เกมหลังสุดในทุกรายการจะเห็นว่า สเปอร์ส ชนะ 4 แพ้ 4 เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นัก แต่เกมนี้ได้ต้อนรับ เชลซี ที่ฟอร์มก็ไม่ดีมากเหมือนกัน ก็น่าจะพอมีโอกาสสำหรับ สเปอร์ส อยู่เหมือนกันในการที่จะคาดหวังถึงชัยชนะต่อเนื่องในเกมนี้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด สเปอร์ส จะยังคงไม่สามารถใช้งานนักเตะอย่าง อูโก้ โยริส, อีฟส์ บิสซูม่า, โรดริโก้ เบนตานกูร์ และ ไรอัน แซงเซอญง ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมดเหมือนเดิม แต่ที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนาม โดยสามประสานในแดนหน้าจะยังคงเป็น แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน และ เดยัน คูลูเซฟสกี้ เหมือนเดิม โดยมี ริชาร์ลิซอน เป็นตัวสอดแทรก

เชลซี
เชลซี ของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ยังคงฟอร์มบู่ไม่เลิก หลังไม่ชนะใครมา 5 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ โดยเป็นการเสมอ 3 แพ้ 2 ผลงานในเกมล่าสุดคือการแพ้คาบ้านต่อ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าผิดหวังมากๆ และถึงแม้ว่ากุนซือชาวอังกฤษจะยังไม่ถูกปลดจากตำแหน่ง แต่ก็กำลังอยู่ในความกดดันอย่างหนัก เนื่องจากตลาดนักเตะในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เชลซี เสริมทัพด้วยเม็ดเงินมหาศาลหลายร้อยล้านปอนด์ แต่ผลงานกลับยังไม่กระเตื้องขึ้นเลย ขณะที่ผลงานในพรีเมียร์ลีก พวกเขาชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 8 เกมหลังสุด แถมยังไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว ทำให้ยังจมอยู่อันดับ 10 ของตาราง มีเพียง 31 แต้มจากการลงเล่น 23 เกม ตามหลังอันดับ 4 อย่าง สเปอร์ส ถึง 11 คะแนน แม้ว่าจะยังแข่งน้อยกว่า 1 นัดก็ตาม

ในส่วนของสภาพทีม เชลซี ยังคงมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายราย โดยเกมนี้จะยังคงไม่มี เอ็นโกโล่ กองเต้, อาร์มันโด้ โบรย่า, เอดูอาร์ เมนดี้, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ คริสเตียน พูลิซิช ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ที่เหลือไม่มีปัญหาฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยเกมรุกต้องฝากความหวังไว้ที่ ไค ฮาแวร์ตซ ยืนเป้นหน้าเป้า โดยมี ชูเอา เฟลิกซ์, มีไคโล่ มูดริค และ โนนี่ มาดูเอเก้ เป็นตัวสนับสนุนในระบบ 4-2-3-1

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (3-4-2-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ : คริสเตียน โรเมโร่, เอริก ดายเออร์, เกลม็องต์ ลองเล่ต์ : เอแมร์ซอน โฮยาล, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก, โอลิเวอร์ สคิปป์, เบน เดวิส : เดยัน คูลูเซฟสกี้, ซน ฮึง-มิน : แฮร์รี่ เคน

เชลซี (4-2-3-1) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, เบอนัวต์ บาเดียชิล, เบน ชิลเวลล์ : มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ :  โนนี่ มาดูเอเก้, ชูเอา เฟลิกซ์, มีไคโล่ มูดริค : ไค ฮาแวร์ตซ์

ความน่าจะเป็น : เป็นการเจอกันของสองทีมที่ฟอร์มไม่ค่อยดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ถ้าจะเทียบกันแล้ว เชลซี ดูจะแย่กว่าค่อนข้างมาก ขณะที่ สเปอร์ส แม้จะมีแพ้บ้างแต่ก็จะกลับมาชนะได้ 2-3 เกมติด ทำให้ยังอยู่ในกลุ่มที่จะขึ้นไปลุ้นท็อป 4 ได้อยู่ หากว่าปรับปรุงเรื่องความสม่ำเสมอได้ก็จะกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที เนื่องด้วยเกมนี้เป็นเกมใหญ่และเป็น ลอนดอน ดาร์บี้ จึงเชื่อว่าทั้งสองทีมใส่กันเต็มที่อย่างแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างก็ต้องการคะแนน แต่ สเปอร์ส ยังดูกว่า เชลซี อยู่พอสมควร ประกอบกับการได้เล่นในบ้าน น่าจะมีผลต่อความมั่นใจ ดูแล้วเกมนี้ สเปอร์ส น่าจะทำได้ดีกว่า อยู่ที่ว่าจะใช้โอกาสเปลืองหรือไม่ โอกาสออกเสมอกันก็เป็นไปได้แต่เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะเป็น สเปอร์ส ที่เฉือนชนะไปในที่สุด

สกอร์ที่คาด : สเปอร์ส ชนะ เชลซี 1-0