ศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้ หงส์แดงยังบู่ไม่เลิกอาจโดนทอฟฟี่บุกแชร์แต้ม

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 03:00 น. วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 (แข่งคืนวันจันทร์)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงยังคงอาการหนักอยู่เหมือนเดิม หลังไม่ชนะใครมา 3 เกมติดต่อกันในทุกรายการ นอกจากนี้ 7 เกมหลังสุดในทุกรายการ ลิเวอร์พูล ชนะได้แค่เกมเดียว เสมอ 2 และแพ้ไป 4 โดยผลงานในเกมล่าสุดคือบุกไปโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน ถล่มขาดลอย 3-0 ในเกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน นั่นทำให้ในพรีเมียร์ลีก ทีมหงส์แดงไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกันแล้ว โดยเป็นการแพ้ 3 เสมอ 1 ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล รั้งอยู่เพียงอันดับที่ 10 ของตารางคะแนน มี 29 แต้มจาก 20 เกม ตามหลังอันดับ 4 อย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไกลถึง 12 แต้มเต็ม แม้ว่าจะแข่งน้อยกว่า 2 เกมก็ตาม ซึ่งฟอร์มที่เป็นอยู่ในตอนนี้ น่าจะเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่ที่สุดในยุคที่มี เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นกุนซือแล้ว

ในส่วนของสภาพทีม ลิเวอร์พูล ยังคงเจอกับปัญหานักเตะบาดเจ็บไม่เลิก แม้ว่าจะมีบางส่วนกลับมาซ้อมได้แล้วแต่ก็ยังไม่ฟิตพอที่จะกลับมาช่วยทีม ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อาร์ตูร์ เมโล่ และ ดีโอโก้ โชต้า ส่วนในรายของ หลุยส์ ดิอาซ, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด รวมถึงในรายล่าสุดอย่าง ติอาโก้ อัลกันตาร่า ที่ไปบาดเจ็บที่สะโพก คาดว่าจะไม่สามารถลงช่วยทีมในเกมนี้ได้เช่นกัน และต้องดูอีกครั้งว่าจะต้องพักนานแค่ไหน ทำให้เกมนี้ คล็อปป์ ต้องปวดหัวในการจัดทีมอีกครั้ง แต่เกมรุกยังคงใช้งาน 3 กองหน้าอย่าง โคดี้ กักโป, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตามเดิม

เอฟเวอร์ตัน
หลังจากที่ เอฟเวอร์ตัน ตัดสินใจปลด แฟร้งค์ แลมพาร์ด ออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง ฌอน ไดช์ ขึ้นมาเป็นกุนซือคนใหม่แทน ทีมก็กลับมามีผลงานที่สุดยอดอีกครั้งทันที เมื่อจัดการเปิดบ้านเอาชนะ อาร์เซน่อล มาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 1-0 แถมยังเป็นฟอร์มการเล่นที่ทำได้เหนือกว่าทีมปืนใหญ่อีกด้วย ทำให้ตอนนี้ทอฟฟี่สีน้ำเงินกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง เมื่อสามารถหยุดยั้งสถิติไม่ชนะใครในพรีเมียร์ลีก 8 เกมติดต่อกันได้สำเร็จ เก็บเพิ่มเป็น 18 แต้มจากการลงสนาม 21 เกม รั้งอยู่อันดับ 18 ของตาราง โดยที่มีแต้มตามหลังอันดับ 17 อย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น แถมยังแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ซึ่งถ้าหากว่าเกมนี้พวกเขาทำเซอร์ไพรส์บุกไปเอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่กำลังมีฟอร์มย่ำแย่ในเวลานี้ได้ ก็จะกระโดดขึ้นมาอยู่เหนือโซนตกชั้นในทันที

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด เอฟเวอร์ตัน ยังไม่สามารถใช้งานนักเตะอย่าง เจมส์ การ์เนอร์, แอนดรอส ทาวน์เซนด์ และ เนธาน แพตเตอร์สัน ที่ยังไม่หายเจ็บ ส่วน ไมเคิ่ล คีน และ โดมินิก คาลเวิร์ต-ลูวิน มีอาการเจ็บเล็กน้อย คาดว่าไม่น่าฟิตลงเล่นในเกมนี้ได้เช่นกัน แต่ที่เหลือไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามได้ทั้งหมด โดยที่เกมรุกจะต้องฝากความหวังไว้ที่ นีล โมเปย์ ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และมีตัวริมเส้นอย่าง อเล็กซ์ อิโวบี้ และ ดไวท์ แม็กนีล

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : นาบี เกอิต้า, สเตฟาน บายเซติช, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กักโป

เอฟเวอร์ตัน (4-5-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด : เชมัส โคลแมน, คอเนอร์ โคดี้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, วิทาลี่ มีโคเลนโก้ : ดไวท์ แม็กนีล, อับดุลลาย ดูกูเร่, อีดริสซ่า กาน่า เกย์, อามาดู โอนาน่า, อเล็กซ์ อิโวบี้ : นีล โมเปย์

ความน่าจะเป็น : เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน ลิเวอร์พูล ได้เล่นในบ้าน น่าจะต้องกลับมาเล่นให้เต็มที่เพื่อแฟนๆ แม้ว่าที่ผ่านมาจะฟอร์มย่ำแย่ แต่เกมนี้ควรต้องถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องกลับมาคืนฟอร์มให้ได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่ เพราะ ลิเวอร์พูล นั้นปัญหารุมเร้าเยอะจริงๆ ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน ดูจะมีกำลังใจเพิ่มขึ้นจากการที่ล้ม อาร์เซน่อล ได้ ทำให้เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่สูสีมากที่สุดอีกครั้ง ลิเวอร์พูล อาจจะได้เปรียบที่ได้เล่นในบ้าน และพวกเขามักจะไม่ค่อยแพ้ เอฟเวอร์ตัน ที่แอนฟิลด์ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะจบลงด้วยการเสมอกัน ซึ่งเกมนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นแบบนั้นอีกครั้ง

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1