เรือใบสีฟ้าถูมือรอถล่มทอฟฟี่ ที่แพ้มา 7 จาก 9 เกมหลังสุด

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน โดยเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เจ้าถิ่นมีสภาพทีมที่สมบูรณ์พร้อม และน่าจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มพิกัดแน่ เพื่อหวังคว้า 3 แต้มไล่จี้ อาร์เซน่อล ต่อไป ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตกสุดๆ ชนะได้แค่เกมเดียวจาก 9 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ และยังแพ้ไปถึง 7 เกม ดูจากรูปทรงแล้วแทบจะไม่เห็นมุมที่จะสามารถบุกมาแบ่งแต้มจากเรือใบสีฟ้าได้เลย

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ พบ เอฟเวอร์ตัน
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 22:00 น. วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2565
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้าเสียรังวัดไปไม่น้อย หลังพ่ายคาบ้านต่อ เบรนท์ฟอร์ด 1-2 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดท้ายก่อนเบรกฟุตบอลโลก แต่หลังจากศึก เวิลด์ คัพ จบลง แมนฯ ซิตี้ ก็กลับมาคืนฟอร์มได้อีกครั้ง เมื่อจัดการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไป 3-2 ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อด้วยบุกไปถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด อีก 3-1 ในเกมพรีเมียร์ลีกช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ทำให้ยังคงรั้งอันดับ 2 และตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูงแค่ 5 คะแนนตามเดิม และเกมนี้พวกเขามีโอกาสทำแต้มไล่จี้กดดันทีมปืนใหญ่ที่เตะช้ากว่าบ้าง หากว่าชนะได้ก็จะไล่ตามเหลือแค่ 2 แต้มทันที แต่จะแข่งมากกว่า 1 นัด

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ ถือว่ามีทีมที่สมบูรณ์มากๆ โดยจะไม่มีแค่ รูเบน ดิอาส ที่มีอาการบาดเจ็บเพียงแค่รายเดียว ส่วน ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ น่าจะกลับมาซ้อมกับทีมได้แล้วหลังจากได้พักมาหลังจบฟุตบอลโลก แต่เกมนี้คงนั่งดูเพื่อนๆ เล่นกันไปก่อน โดยเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะมีการสลับนักเตะบางรายจากเกมนัดล่าสุด แต่ตัวหลักๆ อย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ และ เควิน เดอ บรอยน์ จะยังลงเป็นตัวจริงตามเดิม ในระบบ 4-3-3

เอฟเวอร์ตัน
ทอฟฟี่สีน้ำเงินของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่และล่อแหลมต่อการตกชั้นอีกครั้ง หลังไม่ชนะใครเลยใน 5 เกมหลังสุดในทุกรายการ นอกจากนี้ยังเป็นการแพ้มา 4 เกมติดต่อกันอีกด้วย และที่หนักไปกว่านั้นก็คือ เอฟเวอร์ตัน ชนะได้แค่เกมเดียวจาก 9 เกมหลังสุด และยังแพ้ไปถึง 7 เกมด้วยกัน เรียกได้ว่าอาการหนักสุดๆ แล้ว โดยเกมล่าสุดคือการพ่ายคาบ้านต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไป 1-2 ทำให้ตอนนี้ตกไปอยู่อันดับที่ 17 ของตาราง และมีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่งผลให้อนาคตในตำแหน่งกุนซือของ แลมพาร์ด กำลังกดดันอย่างหนัก แต่ถ้าหากว่าเกมนี้ถูก แมนฯ ซิตี้ ถล่มยับ ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นกุนซือถูกปลดจากตำแหน่งอีกรายก็เป็นได้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุด เอฟเวอร์ตัน มีปัญหานักเตะบาดเจ็บอยู่หลายราย โดยจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เจมส์ การ์เนอร์, แอนดรอส ทาวน์เซนด์ และ เมสัน โฮลเกต ที่บาดเจ็บทั้งหมด ส่วน เยร์รี่ มิน่า มีอาการเจ็บเล็กน้อย ไม่น่าลงเล่นในเกมนี้ได้เช่นกัน ส่วนข่าวดีคือ คอเนอร์ โคดี้ปราการหลังคนสำคัญน่าจะหายเจ็บกลับมาลงเล่นได้ทันเวลา รวมถึง โดมินิก คาลเวิร์ต-ลูวิน กองหน้าตัวเก่งที่น่าจะฟิตกลับมาลงเป็นตัวจริงในเกมนี้เช่นกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, มานูเอล อาคานจี, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, ชูเอา กันเซโล่ : เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน : แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, ฟิล โฟเด้น

เอฟเวอร์ตัน (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด : เนธาน แพตเตอร์สัน, คอเนอร์ โคดี้, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, วิทาลี่ มีโคเลนโก้ : อามาดู โอนาน่า, อีดริสซ่า กาน่า เกย์, อเล็กซ์ อิโวบี้ : แอนโธนี่ กอร์ดอน, โดมินิก คาลเวิร์ต-ลูวิน, เดมาไร เกรย์

ความน่าจะเป็น : ร่อแร่เหลือเกินสำหรับ เอฟเวอร์ตัน แถมเกมนี้ยังต้องมาเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่กำลังต้องการ 3 แต้มเพื่อไล่ล่าตำแหน่งจ่าฝูงกับ อาร์เซน่อล อีก ดูแล้วเกมนี้ไม่น่ามีปาฏิหาริย์ รูปเกมน่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ครองเกมบุกอยู่แทบจะฝ่ายเดียว ก่อนจะใช้ความได้เปรียบจากการเล่นในบ้านและคุณภาพที่เหนือกว่า เอาชนะไปได้แบบไม่ยากนัก และสกอร์อาจจะขาดด้วย แม้ว่า เอฟเวอร์ตัน จะสู้เต็มที่ก็ตาม แต่ยังห่างชั้นกันเกินไป

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0