ศึกมาดริดดาร์บี้ ราชันชุดขาวหวังบุกชนะตราหมีแซงขึ้นจ่าฝูง

พรีวิวฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
แอตเลติโก มาดริด พบ เรอัล มาดริด
สนาม : ซิบิตาส เมโตรโปลิตาโน่
เวลา : 02:00 น. วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 (แข่งคืนวันอาทิตย์)
ถ่ายทอดสดทาง : beIN Sports 3 (ช่อง 609)

แอตเลติโก มาดริด
ทีมตราหมีของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ออกสตาร์ท ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ยังไม่เปรี้ยงเท่าไหร่นัก แต่ในภาพรวมก็ยังไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้น แม้ว่าตอนนี้จะรั้งอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง เก็บไปแล้ว 7 แต้มจาก 4 เกม จากผลงานชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 แต่พวกเขายังแข่งน้อยกว่าทีมอื่นๆ อยู่ 1-2 นัด เลยทีเดียว ดังนั้นหากว่าเก็บนัดตกค้างได้ แอต. มาดริด ก็ยังถือเป็นทีมที่อยุ่ในกลุ่มลุ้นท็อป 4 เหมือนเดิม ซึ่งผลงานในเกมล่าสุดของพวกเขาก็คือเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังบุกไปเสมอกับ ลาซิโอ มาได้ 1-1 ส่วนเกม ลา ลีกา นัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน คือเกมที่บุกไปพ่ายต่อ บาเลนเซีย 3-0 ซึ่งนั่นถือเป็นการพ่ายเกมแรกในฤดูกาลนี้ของพวกเขา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่แพ้ใครมา 3 นัดติดต่อกัน

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แอต. มาดริด ถือว่ามีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างมาก เมื่อจะไม่มีนักเตะอย่าง วิโตโล่, เรยนิลโด้, โตม่าส์ เลอมาร์, โกเก้, เมมฟิส เดอปาย, ชากลาร์ โซยุนชู และ โรดริโก้ เด ปอล ที่บาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ส่วนอื่นๆ ไม่มีปัญหา พร้อมลงสนาม โดยเกมนี้คาดว่าแนวรุกจะยังใช้คู่กองหน้าอย่าง อัลบาโร่ โมราต้า และ อองตวน กรีซมันน์ โดยมี ซาอูล ญีเกซ, ปาโบล บาร์ริออส และ มาร์กอส ยอเรนเต้ คุมเกมในแดนกลาง ในระบบการเล่น 3-5-2

เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวที่นำโดย คาร์โล อันเชลอตติ ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ได้อย่างสุดยอดมากๆ หลังลงเล่นมา 6 เกมรวมทุกรายการเอาชนะได้ทุกเกม โดยแบ่งเป็น ลา ลีกา 5 นัด และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มอีก 1 นัด ซึ่งผลงานใน ลา ลีกา จากการที่ชนะ 5 เกมรวดทำให้ เรอัล มาดริด เก็บไปแล้ว 15 แต้มเต็ม รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่าง บาร์เซโลน่า 1 นัด แต่ทีมราชันชุดขาวยังแข่งน้อยกว่า 1 เกม ดังนั้นหมายความว่าถ้าเกมนี้พวกเขาชนะ แอต. มาดริด ได้ ก็จะแซงเป็นจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียวทันที ส่วนผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านเอาชนะ อูนิโอน เบอร์ลิน ไปได้ 1-0 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น เรอัล มาดริด จะไม่มีนักเตะอย่าง เอแดร์ มิลิเตา, ติโบต์ กูร์กตัวส์, ดาเนียล การ์บาฆาล และ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ส่วนอื่นๆ นั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมนามในเกมนี้ในระบบการเล่น 4-3-1-2 คู่กองหน้าจะเป็น โฆเซลู จับคู่กับ โรดรีโก้ โดยมี จู๊ด เบลลิงแฮม ที่กำลังฟอร์มพีคสุดๆ คอยเป็นตัวปั้นเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แอต. มาดริด (3-5-2) : ยาน โอบลัค : สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ คิเมเนซ, มาริโอ เอร์โมโซ่ : นาอูเอล โมลิน่า, มาร์กอส ยอเรนเต้, ปาโบล บาร์ริออส, ซาอูล ญีเกซ, ซามูเอล ลิโน่ : อัลบาโร่ โมราต้า, อองตวน กรีซมันน์

เรอัล มาดริด (4-3-3) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า : ลูคัส บาสเกซ, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, ดาวิด อลาบา, ฟราน การ์เซีย : เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, ออเรเลียง ชูอาเมนี่, เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า : จู๊ด เบลลิงแฮม : โรดรีโก้, โฆเซลู

ความน่าจะเป็น : ศึก "เอล เดร์บี้ มาดริเลนโญ่" ครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญมากกับ แอต. มาดริด เนื่องจากถ้าหากว่าแพ้ในเกมนี้ จะโดน เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 11 แต้มทันที แม้ว่าจะยังแข่งน้อยกว่า 1 เกม แต่นั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน และโอกาสที่จะลุ้นแชมป์ ลา ลีกา ก็จะยิ่งลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้นเกมนี้ต้องสู้เต็มที่ แต่กระนั้นถ้าว่ากันตามฟอร์มต้องยอมรับชั่วโมงนี้ มาดริด ดูดีกว่ามาก ทำให้เกมนี้น่าจะเป็นเกมที่ออกมาสูสีกันโดยที่ราชันชุดขาวไม่เป็นรองมากนักแม้ว่าจะออกมาเยือน และถ้าไม่ใช้โอกาสเปลืองก็มีลุ้นถึงเบียดชนะ

สกอร์ที่คาด : แอตเลติโก มาดริด แพ้ เรอัล มาดริด 1-2