การต่อสู้เพื่ออันดับ 2 ที่ ฮังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์

ฮังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่สำคัญอีกรายการ เพราะการต้อนรับการแข่งขันระดับโลกไม่ต่างจากการแสดงตนว่าพวกเขาเปิดประเทศต้อนรับอารยชน รัฐบาลใช้เวลาเพียง 8 เดือนก่อสร้างสนามตามคำแนะนำของ เบอร์นี่ เอ็คเคิ่ลสโตน ผู้บริหารในยุคนั้นเมื่อปี 1986 เนื่องจากต้องสร้างสนามให้ห่างใจกลางเมือง แต่ไม่ไกลเกินไป เพื่อที่การเดินทางจะยังสะดวกสบาย ฮังการอริง จึงอยู่ท่ามกลางธรรมชาตินอกเมืองหลวง บูดาเปสต์

จุดเด่นของสนามแห่งนี้ เนื่องจากอยู่กลางธรรมชาติจึงมีลมแรง มีฝุ่นพัดกระจาย และหากสภาพอากาศแปรปรวน ก็จะเกิดอุบัติเหตุได้ไม่ยาก เหล่านักขับจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และด้วยสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจาก ซิลเวอร์สโตน เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้หลายทีมจะโดนจับตาอย่างมากในการต่อสู้ที่แสดงให้หเ็นถึงความพยายามในการชิงอันดับ 1 อย่างน้อยก็ขอยึดอันดับ 2 ไว้ก่อน! 

ยินดีต้อนรับ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ กลับสู่ ฟอร์มูล่า วัน

อัลฟ่าทอรี เป็นหนึ่งในทีมที่ทำการอัพเกรดรถอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนั้น เรื่องที่ผู้คนพูดถึงกันไม่หยุดหย่อนตลอดสัปดาห์คือการคืนสนามของ แดเนี่ยล ริคคาร์โด้ มือ 3 จาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ที่กลายมาเป็นมือฉมังของ อัลฟ่าทอรี อย่างไม่ต้องสงสัย หลังจาก ดร. เฮลมุต มาร์โก รับผิดชอบต่อการทาบทาม นิค เดอ ฟรีส มาร่วมทีม ด้วยการสั่งฟันทิ้ง และให้ที่นั่งกลายเป็นของ ริคคาร์โด้ หลังจากผ่านไป 10 สนามยังไม่มีแต้ม 

คริสเตียน ฮอร์เนอร์ หัวหน้าทีม เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ให้ความเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่าทุกฝ่ายมีความคาดหวังต่อผลงานของ เดอ ฟรีส อย่างมาก แม้เป็นรุกกี้ เอฟ วัน แต่เป็นนักขับที่มีประสบการณ์สูงในมอเตอร์สปอร์ต ด้วยวัย 27 ปี ผ่านการคว้าแชมป์ระดับ ฟอร์มูล่า ทู และ ฟอร์มูล่า อี มาแล้ว เทียบอายุและปัจจัยหลายอย่างกับ ยูกิ ทซึโนดะ ที่ใกล้จะหมดสัญญา อัลฟ่าทอรี มองว่า เดอ ฟรีส เหมาะกับการเป็นผู้นำทีม แต่เมื่อผ่านครึ่งซีซั่นยังตีไข่ไม่แตกก็ต้องทำอะไรสักอย่าง และเป็นดร. มาร์โก ที่เป็นผู้รับผิดชอบ 

ร่ำลือกันว่า การทำเวลาในการทดสอบยางรถเมื่อสัปดาห์ที่แล้วของ ริคคาร์โด้ ออกมายอดเยี่ยม เรื่องอื่นนอกจากนี้คงไม่ต้องถามถึง เขามีคาแร็คเตอร์ที่แตกต่าง และเคยเป็นแชมป์ เอฟ วัน 8 ครั้ง แค่ต้องรื้อฟื้นความรู้สึกของการนั่งในรถและวิ่งไปบนแทร็คอีกสักหน่อย

แม็คลาเรน และการรับมือกับสนามที่แตกต่าง 

ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ถ้าใครต่อใครบอกว่า ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สร้างแรงใจให้กับหลายทีมที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในอังกฤษ และ แม็คลาเรน ก็เป็นหนึ่งในนั้น และด้วยความกว้างของสนาม การแย่งตำแหน่งก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป การอัพเกรดรถ สภาพอากาศ พื้นแทร็คไม่ร้อนเกินไปจนยางโอเวอร์ฮีตและทุกอย่างที่ออกมาเข้าทางทั้ง ลันโด นอร์ริส จนขึ้นโพเดียมครั้งแรกของซีซั่น และ ออสการ์ ปิอัสตรี ทำอันดับได้ดีที่สุดก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ต่อจากนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง แม็คลาเรน จะไปไหน

รถของ แม็คลาเรน เป็นหนึ่งในรถที่ทำความเร็วในการเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ที่ฮังการี โค้งส่วนใหญ่ของสนามจะใช้ความเร็วปานกลาง และปานกลางค่อนข้างต่ำ หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ที่นี่จะอุณหภูมิสูงกว่าที่ซิลเวอร์สโตน ซึ่ง MCL60 ทั้งสองคันมีความสามารถทำให้ยางร้อนเร็วอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่ต้องติดตาม 

การต่อสู้เพื่ออันดับ 2 

คงไม่ต้องให้ความเห็นยืดยาวถึงอันดับ 1 อย่าง เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ที่ตอนนี้เดินหน้าทำสถิติต่อไป โดยไม่แน่ใจนักว่าจะเสียสถิติเมื่อไร แต่ด้วย 411 คะแนนหลังจากผ่านครึ่งฤดูกาล ขณะที่ทีมอันดับ 2 ตามหลังมากกว่า 2 เท่า เมอร์ซิเดส 203 แอสตัน มาร์ติน 181 และ เฟอร์รารี่ 159 ถ้า แม็คลาเรนที่มี 59 คะแนนไม่ท้อถอยนี่คือการต่อสู้ที่ดุเดือดไม่น้อย 

แอสตัน มาร์ติน มีแววรุ่งเรืองมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่เมื่อทีมอื่นทยอยกันอัพเกรดรถกับสนามที่หมุนวนไป มีบ้างบางที่ที่ไม่ค่อยเข้าทางก็ทำให้ทีมอื่นสลับกันขึ้นโพเดียม และล่าสุด แม็คลาเรน ที่โชว์ฟอร์มแรงก็ขยับขึ้นมาเล่นด้วย เพราะ เฟอร์รารี่ ซีซั่นนี้เป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ และยังมีแผนแปลกๆ มาเซอร์ไพรส์เหล่าทิโฟซี่อยู่เสมอ 

แม็คลาเรน เป็นทีมที่ครองสถิติแชมป์ที่ ฮํงการี มากที่สุด 11 ครั้ง และ ลูอิส แฮมิลตัน เคยคว้าแชมป์ที่นี่ 8 ครั้ง ส่วนในครั้งล่าสุดเมื่อปีก่อน แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ อังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์ เป็นครั้งแรก และคงไม่ต้องบอกว่า ฟอร์มูล่า วันเป็นการแข่งขันที่สุดคาดเดาอยู่เสมอ 

ฟอร์มูล่า วัน ฮังกาเรี่ยน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 21-23 ก.ค. นี้ ถ่ายทอดสดทางช่อง บีอินสปอร์ตส์ 1 (607)