“แม็กซ์” สร้างประวัติศาสตร์ให้ “เร้ดบูลล์ เรซิ่ง” ชนะที่ “ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์” มากที่สุด “เปเรซ” ไต่จากอันดับ 15 ขึ้นโพเดียม
แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อคืน 2 ก.ค. ที่ผ่านมาอย่างไร้ปัญหา สร้างประวัติศาสตร์ทำให้นักขับจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ครองตำแหน่งแชมป์มากที่สุดที่สนามแห่งนี้ ตามด้วย ชาร์ลส์ เลอแกลร์ และ เซอร์จิโอ เปเรซ ที่ขึ้นโพเดียมจากการออกสตาร์ทในอันดับที่ 15 โดยสภาพอากาศไม่ร้อนจัด ทำให้รถส่วนมากเลือกใช้ยางแบบมีเดียม คาวพาวด์
เริ่มออกตัวที่ เร้ดบูลล์ ริง แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน เร่งเครื่องเข้าสู่เส้นทางการขับ เบี่ยงขวา ตามด้วย ชาร์ลส เลอแกลร์ และ คาร์ลอส ไซนซ์ ส่วน เซอร์จิโอ เปเรซ อีกคันจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่งขยับตำแหน่งมาที่อันดับ 14 จังหวะออกตัวรถของ ยูกิ ทซึโนดะ เฉี่ยวรถของ เควิน แม็กนุสเซ่น ทำให้ชิ้นส่วนหน้ารถเสียหาย ต้องเข้าพิทเปลี่ยนอะไหล่ และมีรถเซฟตี้คาร์วิ่งนำหน้า ลัดเข้าทางพิตเลนเพื่อทำความสะอาดพื้นสนาม และหลังจากผ่านไป 12 รอบ มีรถบางคันเริ่มเข้าเปลี่ยนยาง จากนั้นในรอบที่ 13 รถของ นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก เข้าเทียบจอด เนื่องจากเครื่องยนตร์มีปัญหา
เกิดสัญญาณธงเหลืองทำให้รถหลายคัน โดนเรียกเข้าพิต ซึ่ง เฟอร์รารี่ ในอันดับ 2 และ 3 โดนเรียกเข้าเปลี่ยนยางต่อกัน แต่เกิดความล่าช้าทำให้ ไซนซ์ ที่ตามมาเสียเวลา และตำหนิทีมงานผ่านทางวิทยุสื่อสาร จากนั้นไม่นาน ทั้ง ลูอิส แฮมิลตัน และ ทซึโนดะ โดนปรับโทษบวกเวลา เนื่องจากขับรถล้นออกนอกโค้ง 9 เกิน 3 ครั้ง โดย แฮมิลตัน บอกกับทีมงานไปแล้วว่ามีปัญหาเรื่องการเบรก
ผ่านไป 1 ใน 3 ของการแข่งขัน 24 จาก 71 รอบ เปเรซ เร่งขึ้นมาเป็นอันดับ 4 แล้ว และพยายามป้องกันตำแหน่งจาก แฮมิลตัน จากนั้นรอบถัดไป เวอร์สเตปเปน เข้าพิตเปลี่ยนยาง ทำให้ออกมาตามหลัง เลอแกลร์ และ ไซนซ์ แต่มีความเป็นไปได้ที่จะแซง และแซง ไซนซ์ ได้สำเร็จในรอบถัดไป ด้วยยางที่ใหม่กว่า แต่ยังตามหลัง เลอแกลร์มากกว่า 6 วินาที
เมื่อถึงรอบที่ 35 หรือครึ่งหนึ่งของเมนเรซ เวอร์สเตปเปน ใช้ DRS แซง เลอแกลร์ กลับขึ้นเป็นผู้นำอีกครั้ง จากนั้นเมื่อเหลือ 20 รอบ เปเรซ แซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แต่โดนเรียกเปลี่ยนยาง เนื่องจากตามกฎของการแข่งที่สนามนี้จำเป็นต้องใช้ยางอย่างน้อย 2 แบบ จึงกลับออกมาเป็นอันดับ 5 แต่แค่ไม่กี่รอบก็แซง ลันโด นอร์ริส ได้สำเร็จ
ถัดมาเพียง 2 รอบ เปเรซ แซงหน้า ไซนซ์ ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 และยังพยายามแย่งตำแหน่งกันตลอดจนเกือบครบรอบ จนเข้าโซนที่ใช้ DRS ได้ เปเรซ ปล่อยให้รถของ เฟอร์รารี่ เข้าโค้งไปก่อน จากนั้นใช้ความได้เปรียบ ของรถและยางขึ้นอันดับได้ในที่สุด โดยเหลืออีกไม่ถึง 10 รอบยังตามหลัง เลอแกลร์ มากกว่า 12 วินาที
รอบสุดท้าย เวอร์สเตปเปน ต้องเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยางตามกฎ ทีมงาน เร้ดบูลล์ เรซิ่ง เปลี่ยนเอายาง ซอฟต์ คอมพาวด์ให้เป็นชุดสุดท้าย โดยไม่มีปัญหา และเข้าเส้นชัยพร้อมกับทำเวลาเร็วที่สุด (Fastest Lap)
ขณะที่ อเล็กซ์ อัลบอน ออกสตาร์ทด้วยอันดับ 10 ระหว่างการแข่งขันโดนเตือนแทร็คลิมิตเพราะขับรถออกนอกเส้นที่โ๕้ง 9 3 ครั้ง และเมื่อถึงครั้งที่ 4 ทำให้โดนปรับโทษ 5 วินาที จากนั้นในช่วงท้าย รอบที่ 64 จาก 71 โดน แลนซ์ สตรอลล์ แซงหน้า จบด้วยอันดับ 11 ไม่มีคะแนนในสนามนี้
ภาพถ่ายทอด
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial