แม็กซ์ นำม้วนเดียวจบ ซิวแชมป์ โมนาโก

แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ โมนาโก กรังด์ปรีซ์ ขึ้นนำแบบม้วนเดียวจบตามการวางกลยุทธได้อย่างดีของ เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ทำรอบไปเรื่อยๆ ก่อนเข้าเปลี่ยนยางเมื่อเริ่มมีฝนตก ตามด้วย เฟร์นานโด อลอนโซ่ และ เอสเตบัน โอคอน ที่รักษาระยะห่างกับรถคันหลังมาตลอด 

เริ่มออกสตาร์ท แม็กซ์ เวอร์ศเตปเปน รักษาตำแหน่งผู้นำได้อย่างยอดเยี่ยม หัวแถวไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ท้ายแถว แลนซ์ สตรอลล์ เสียไป 4 อันดับ และ นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก สะกิดท้าย โลแกน ซาร์เจนท์ ทำให้โดนโทษปรับ 5 วินาที แถมยังเสียเวลาในพิตกับการเปลี่ยนยางล้อหลังขวา ขณะที่ เซอร์จิโอ เปเรซ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแย่งตำแหน่งก็ต้องรีบเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยาง และกลับออกมาพร้อมกับเร่งทำเวลาในอันดับ 18

รอบที่ 11 คาร์ลอส ไซนซ์ แปะปีกหน้าโดนท้ายรถ เอสเตบัน โอคอน ทำให้มีธงเหลือง เนื่องจากมีชิ้นส่วนรถอยู่บนพื้นแทร็ค ทีมงาน เฟอร์รารี่ เตรียมที่จะเปลี่ยนอะไหล่ แต่รถยังไปต่อได้ตามปกติ จนกระทั่งผ่านไป 1 ใน 3 ของการแข่งขัน ฟ้าเริ่มมืดครึ้ม แต่กลุ่มผู้นำยังไม่เปลี่ยนแปลง

เกือบครึ่งทางในรอบที่ 37 คาร์ลอส ไซนซ์ เปลี่ยนยางเพื่อหวังจะทำอันดับให้สูงขึ้นเพื่อแซง โอคอน แต่ยังกลับออกมาอยู่ด้านหลัง เพราะยางเซ็ตใหม่ไม่ได้ช่วยให้ทำเวลาเร็วขึ้น และผ่านไปอีก 15 รอบ ก็ขยับมาในอันดับ 5 จากนั้นเมื่อถึงรอบที่ 51 เริ่มมีฝนลงเม็ด ทำให้ เวอร์สเตปเปน ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนยางจะเข้าไปเปลี่ยนเป็นยางสำหรับถนนเปียก ขณะเดียวกันรถหลายคันก็เริ่มทำเวลาลดลง เนื่องจากอุณหภูมิสนามลดลง และพื้นถนนลื่น 

รถแข่งเกินกว่าครึ่งเริ่มเปลี่ยนมาใช้ยางสำหรับพื้นถนนที่มีทั้งเปียกและแห้ง เนื่องจากบริเวณเซ็คเตอร์ 2 ฝนตกจนน้ำนองพื้นถนน แต่ยังมีบางส่วนที่พื้นแห้งอยู่ แต่มีบางคันที่เลือกใช้ยางสำหรับถนนเปียกหรือยาง Slick เพื่อรีดน้ำ จากนั้นขณะที่ฝนเริ่มหนัก แลนซ์ สตรอลล์ ชนกำแพงเพราะเสียการควบคุมรถจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว รถเสียหาย ต้องออกจากการแข่งขัน

รอบที่ 57 เควิน แม็กนุสเซ่น ที่แจ้งกับทีมง่าอยากใช้ยางสำหรับถนนเปียก กำลังพารถไปที่พิต แต่ชนเข้ากับกำแพงก่อน แม้ถอยออกมาและไปถึงพิต แต่ก็เสียเวลานาน เพราะรถเสียหายหนักกว่าที่คาด ทีมงานไม่ได้เตรียมความพร้อมไว้ ถัดมาในรอบ ที่ 59 จอร์จ รัสเซลล์ โดนโทษ 5 วินาที จากจังหวะกลับเข้าสนามหลังออกจากพิตแบบผิดกฎ และทำให้ เซอร์จิโอ เปเรซ ไม่ทันระวัง งัดกันเล็กน้อย แต่ทั้งสองยังไปต่อได้ 

เมื่อเหลือไม่ถึง 10 รอบสนาม สนามเปียกและปัญหาระบบเบรกทำให้ ยูกิ ทซึโนดะ ขับถลำออกไป ต้องพยายามกลับตัวในช่วงโค้งระหว่างเซ็คเตอร์ 1 และ 2 ของสนาม ร่วงลงมาเป็นอันดับ 13 ขณะที่ เวอร์สเตปเปน ยังนำอยู่ และยืนยันกับทีมงานว่าจะไม่เปลี่ยนยาง แม้ยังเหลือให้เปลี่ยนได้อีกชุด แต่สนามที่ยังไม่แห้งสนิท จึงยังใช้ยางกึ่งเปียก และเข้าเส้นชัยไปอย่างไร้ปัญหา