โมนาโก กรังด์ปรีซ์ รายการระดับโลกที่เป็น 1 ใน 3 สุดยอดการแข่งขันของวงการมอเตอร์สปอร์ต อยู่คู่กับ ฟอร์มูล่า วัน มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่จัดตั้งการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1950 บนสตรีทเซอร์กิต ถนนจริงที่ปรับแต่งขึ้นมาเพื่อการแข่งขัน 78 รอบสนาม นี่คือเรซที่ผู้ชมทั่วโลกรอคอยและติดตามมากที่สุด
ปี 2022 ฝนเทลงมาทำให้การแข่งขันเริ่มต้นล่าช้า พื้นถนนลื่นเปียกและความแคบของถนนที่ต่างจากมาตรฐานสนามที่สร้างเพื่อการแข่งขันทำให้ครั้งนี้ไม่ใช่การดวลความเร็วอันน่าทึ่งอย่างที่คิด แต่ก็น่าประหลาดใจไม่น้อย เมื่อ ชาร์ลส์ เลอแกลร์ เจ้าของโพลไม่สามารถขึ้นไปยืนบนโพเดียมได้ และจะต้องใช้เวลาอีกเท่า กว่าที่เขาจะทำงายอาถรรพ์ในบ้านเกิดกับการเป็นนักขับผู้ถือกำเนิดในโมนาโกเพียงหนึ่งเดียว
2017
เลอแกลร์ เริ่มสนามแรกที่บ้านเกิดในโมนาโกเมื่อปี 2017 ใน ฟอร์มูล่า 2 กับทีม พรีม่า เขาออกตัวด้วยการเป็นผู้นำอยู่ข้างหน้า อเล็กซานเดอร์ อัลบอน และดูเหมือนจะคว้าชัยไปได้ไม่ยากเลย แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เซฟตี้คาร์ต้องออกมา มันก็คงไม่ร้ายแรงเท่าไร เพราะยังนำอยู่หัวแถว แต่การออกมาของเซฟตี้คาร์ในครั้งที่สอง ทำให้การนำห่างลดช่องว่างลงและกลายเป็นอันดับ 4 จากนั้นไม่นานมีการเรียกเข้าพิต เนื่องจากพบสิ่งผิดปกติที่ล้อหน้าซ้ายและต้องออกจากการแข่งขันแม้พลาดคะแนนในสนามนั้น แต่ เลอแกลร์ ยังเป็นแชมป์ F2 ในเวลาต่อมา
2018
หลังจากคว้าแชมป์ F2 สำเร็จ อัลฟ่า โรเมโอ ไม่รอช้า เซ็นสัญญากับนักขับอนาคตไกลวัยเพียง 19 ปี ที่ทำ 2 คะแนนสะสมไว้แล้วจาก อาเซอร์ไบจาน กรังด์ปรีซ์ และ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ แน่นอนว่าขนาดทีมและรถอาจไม่ส่งให้ เลอแกลร์ หวังถึงแชมป์ แค่ได้แต้มก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
เลอแกลร์ ผ่านรอบคัดเลือกในอันดับ 14 แม้เป็นเรื่องยากที่จะได้แต้ม เป้าหมายจึงลดลงมาเล็กน้อย ขอให้จบด้วยอันดับที่ดีที่สุด แต่เมื่อเหลืออีก 8 รอบในอันดับ 12 ระบบเบรกเกิดผิดปกติ เขาพุ่งชนรถคันหน้าของ โ๖โร รอสโซ่ อย่างแรก รถเสียหายอย่างหนัก และต้องออกจากการแข่งขันไปทั้งสองคันร่วมกับ แบรนดอน ฮาร์ทลี่ย์ อย่างไรก็ดี เขามีข่าวดี จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับทีมขนาดกลาง เฟอร์รารี่ เลือกที่จะมอบสัญญาดึงตัวมาร่วมทีม
2019
ปีแรกของ เลอแกลร์ ไม่ใช่ปีที่รุ่งเรืองของ เฟอร์รารี่ เขาเป็นนักขับดาวรุ่งที่จับคู่กับ เซบาสเตียน เว็ทเทล อย่างน้อยก็ได้เห็นก้าวใหม่ของทีมสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ให้โอกาสกับนักขับรุ่นใหม่ และเขาไขว่คว้าโอกาสนั้นไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม จบเป็นท็อป 5 ของ 5 เรซแรก สมรรถนะรถที่ดีขึ้น ทำให้แฟนๆ คาดหวังได้เลยว่าจะเห็น ชาร์ลส์ ของพวกเขามีแต้มอย่างแน่นอน จนกระทั่งถึงรอบคัดเลือกรอบแรก
ระหว่างเข้าโค้ง ราสกาสส์ ซึ่งเป็นเหมือนโค้งกลับตัว รถเกิดการล็อคอัพ เพราะเหยียบเบรกช้าเกินไป แต่ เฟอร์รารี่ ก็ปล่อยให้เขาทำรอบต่อจนขึ้นมาเป็นอันดับ 6 และคิดว่าเท่านั้นก็น่าจะพอผ่าน Q1 จึงเรียก เลอแกลร์ กลับเข้าพิต และรออย่างใจเย็น ซ่อมแซมรถรอ Q2 แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะรถคันอื่นทำเวลาดีขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด เขาต้องออกสตาร์ทจาก P16
รอบสุดท้ายเริ่มต้น นักขับรู้ดีว่าต้องทุ่มเท และต้องเสี่ยงอันตรายเพื่อทำอันดับขึ้นไป หลังจากออกตัว เลอแกลร์ขยับขึ้นมา 3 อันดับ จากนั้นในรอบที่ 11 ระหว่างทำความเร็วแซงหน้า นิโก้ ฮูลเคนเบิร์ก ล้อรถเฉี่ยวกับกำแพงจนยางแตก เขาพยายามพารถกลับเข้าพิต แต่มันไกลเกินไป ในที่สุดก็ต้องออกจากการแข่งขันอย่างปวดร้าว
2021
ปี 2020 การแข่งขันยกเลิก เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่ปี 2021 เขากลับมาใหม่อย่างร้อนแรง ทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อตำแหน่งโพล หลังจากเข้าป้ายได้โพลแล้ว ระหว่างขับรถไปที่ พาร์ค เฟอร์เม่ หน้ารถเกี่ยวขอบสนาม และปีนสโลปตรงกลาง จากนั้นชนแบร์ริเออร์ เสียหายอย่างมาก เวลาต่อมา เฟอร์รารี่ ยืนยันว่า ถ้าเกียร์บ็อกซ์ไม่เป็นอะไร ก็จะออกสตาร์ทได้ตามปกติ
วันรุ่งขึ้นในรอบแข่งขัน ระหว่างที่นำรถออกมาทดสอบรอบ Formation Lap ความเร็วก็ค่อยๆ ลดลง เลอแกลร์ วิทยุสื่อสารกับทีมงานว่าเป็นเพราะเกียร์บ็อกซ์แน่ๆ และนำรถกลับเข้าพิต โดยไม่สามารถพารถไปที่กริดสตาร์ทได้ ไม่ได้เริ่มการแข่งขันด้วยซ้ำ สร้างความผืดหวังอย่างรุนแรงทั้งกับตัวนักขับและแฟนๆ ที่เฝ้ารอ
2022
ฤดูกาลนี้เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสุดขีดสำหรับ เฟอร์รารี่ ที่มากับการออกแบบรถใหม่เอี่ยม เครื่องยนตร์ใหม่ทำความเร็วได้เกินคาด และขึ้นแท่นเป็นตัวเต็ง เลอแกลร์ คว้าแชมป์ 2 รายการ โพเดียมอีก 2 ครั้งใน 5 สนามแรก แม้ต้องเจ็บปวดกับการรีไทร์ที่ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ แต่เขากลับมามุ่งมั่นอีกครั้งใน โมนาโก ไม่ว่าจะเคยล้มมากี่ครั้ง
การคว้าโพลอย่างสวยงามเรียกเสียงเชียร์กระหึ่ม และครั้งนี้เขาระมัดระวังอย่างที่สุดกับความมั่นใจเต็มถังด้วยประสบการณ์หลายปีที่สั่งสม โชคชะตาดูเหมือนจะเข้าข้าง เพราะนอกจากคว้าโพล เลอแกลร์ ได้ คาร์ลอส ไซนซ์ ตามหลังเป็นเกราะกำบัง เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ที่ต่อท้ายมาในอันดับ 3 และ 4 แต่รอบสุดท้ายกลับติดขัดเพราะเทพเทวดาบนฟ้าไม่เป็นใจ หลั่งสายฝนลงมาทำให้การแข่งขันเริ่มต้นช้ากว่าปกติ สนามเปียก และความกว้างของสนามที่กลายเป็นแคบเมื่อเทียบกับมาตรฐานสนามแข่งยุคใหม่ การทำความเร็วของรถทุกคันลดลง
เฟอร์รารี่ ขาดประสบการณ์การลุ้นแชมป์ที่ห่างหายไปหลายปี วางแผนผิดพลาด เมื่อสนามเริ่มแห้ง ต้องเปลี่ยนยาง ทีมงานกลับเรียกไซนซ์ เข้าไป และเรียก เลอแกลร์ เข้าต่อท้าย ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่า เวลาไม่กี่วินาทีหรือเพียงเศษเสี้ยงวินาทีมีค่าแค่ในใน ฟอร์มูล่า วัน จากที่จะเป็นแชมป์หรือได้โพเดียม เลอแกลร์ กลับออกมาต่อท้ายอันดับ 3 แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน กลายเป็นการสลับฟันปลาของทั้งสองทีม ทำให้ไม่มีใครกล้าเดิมพัน เพราะอาจหมายถึงการจบแบบมือเปล่า และ เลอแกลร์ คว้าอันดับ 4 พร้อมกับเสียงถอนหายใจของแฟนๆ ที่อยากเห็นเขายืนบนโพเดียมก็ยังดี
ปี 2023 เฟอร์รารี่ กลับมาพร้อมกับนักขับหน้าเดิม รถใหม่ และผู้ถือหางเสือคนใหม่ เฟรเดริก วาสเซอร์ ที่จากผลงานในช่วงต้นฤดูกาล ดูก็รู้ว่าทุกคนต้องเรียนรู้กันอีกนิดเพื่อฝ่าฟันช่วงเวลาติดขัดนี้ ซึ่งบอกไม่ได้เลยว่า อาถรรพ์ที่โมนาโก จะตามหลอกหลอนนักขับผู้ถือกำเนิดในดินแดนนี้ไปอีกกี่ปี
getty
อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :
Website : www.truevisions.co.th
Facebook : Truevisions
Twitter : @TrueVisions
Line : @Truevisions
Youtube official : Truevisionsofficial
Instagram : Truevisionsofficial