แม็กซ์ คว้าแชมป์ ไมอามี่ ไต่จากอันดับ 9

แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์ ฟอร์มูล่า วัน ไมอามี่ กรังด์ปรีซ์ เมื่อช่วงเช้า 8 พ.ค. ที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย หลังจากออกสตาร์ทเป็นอันดับที่ 9 พร้อมกับตำแหน่งนักขับยอดเยี่ยมประจำวันที่แฟนๆ โหวตให้ ตามด้วย เซอร์จิโอ เปเรซ เพื่อนร่วมทีม เร้ดบูลล์ เรซิ่ง และ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ขึ้นโพเดียมเป็นครั้งที่ 4 ในซีซั่นนี้ 

เริ่มการแข่งขันที่ ไมอามี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตโดรม เซอร์จิโอ เปเรซ ออกตัวได้ดีเร่งแซงและปิดมุมไม่ให้ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ได้เปรียบ กลุ่มท้าย นิค เดอ ฟรีส เฉี่ยวท้าย ลันโด นอร์ริส ทำให้รอบถัดไป เดอ ฟรีส ต้องเปลี่ยนอะไหล่ ส่วน แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน เสียตำแหน่งตกลงมาเป็นอันดับ 10 แต่แค่ 3 รอบก็ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 6 

จากนั้นในรอบที่ 9 จึงขยับมาที่อันดับ 5 และเมื่อเกือบครบรอบก็ขยับเป็นอันดับ 4 ถัดไปอีก 5 รอบแซง คาร์ลอส ไซนซ์ ขึ้นมาเป็นท็อป 3 และไล่กดดัน อลอนโซ่ ที่อยู่ข้างหน้าด้วยความห่างไม่เกิน 0.5 วินาที โดยที่โค้ง 11 ของสนามซึ่งแซง เฟอร์รารี่ ในรอบก่อน ก็เป็นจุดที่ทำให้แซงขึ้นไปเป็นที่ 2 ได้ 

รอบที่ 21 เปเรซ เข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยางชุดใหม่ กลับออกมาเป็นอันดับ 4 แต่ไม่นานก็ขึ้นเป็นอันดับ 3 และทำเวลาได้ดี จากนั้นความใหม่ของยางช่วยให้ขยับอันดับขึ้นมาไม่ยาก แต่เมื่อผ่านไปเกือบ 2 ใน 3 ของการแข่งขัน เวอร์สเตปเปน ยังคงรักษาทั้งตำแหน่งและยางชุดแรกไว้ จนเมื่อเหลือ 11 รอบ แชมป์โลกสองสมัยจึงเปลี่ยนยางที่จะใช้ในช่วงที่เหลือ และเป็นการต่อสู้กันของนักขับจาก เร้ดบูลล์ เรซิ่ง โดยยางที่สดใหม่กว่ากับรายละเอียดอีกหลายอย่างที่เข้าทางทำให้ เวอร์สเตปเปน รักษาผลงานและแซงกลับขึ้นไป ครองแชมป์สนามนี้

อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยออกสตาร์ทอันดับ 11 แต่ร่วงลงมาเป็นอันดับ 12 จากนั้นเมื่อผ่านไป 1 ใน 4 ของการแข่งขันเข้าสู่อันดับ 10 มีโอกาสที่จะเก็บคะแนนในสนามนี้ แต่เมื่อเข้าพิตไปเปลี่ยนยางชุดแรกก็กลับออกมาเป็นอันดับ 17 และพยายามทำตามแท็คติก แต่มีการตอบวิทยุขัดแย้งว่าการทุ่มเททำความเร็วอาจส่งผลต่อยางในระยะยาวก่อนจบด้วยอันดับ 14 ไม่มีคะแนนในสนามนี้