เดอะ มาสเตอร์ส ศึกแห่งศักดิ์ศรี

เดอะ มาสเตอร์ส เมเจอร์แรกของปีที่แฟนกอล์ฟ รอคอยพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นที่ ออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ สัปดาห์แรกของเดือนเม.ย. เหมือนเช่นเคย ปีนี้รอบแรกตรงกับวันที่ 6 เม.ย. และจะจบรอบสุดท้าย 9 เม.ย. เนื่องจากเป็น 1 ใน 4 รายการระดับเมเจอร์ จึงพยายามให้โอกาสโปรทั้งหลายอย่างกล้างขวาง 

รายการนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1934 แต่มีการมอบเสื้อสูทเขียวที่ผู้ชมคุ้นตาอย่าง “กรีน แจ็คเก็ต” ให้ผู้ชนะรายการนี้ตั้งแต่ปี 1949 เป็นต้นมา แต่ไม่ใช่การมอบอย่างถาวร ให้ครองไว้และนำกลับมาคืนในปีถัดไป แต่ก็อีกเช่นกัน ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาหลายสิบปี มีเพียงตัวเดียว แต่ทุกคนมีเสื้อเกียรติยศของตัวเอง และเก็บเอาไว้ในคลับเฮ้าส์รวมกับเหล่าแชมป์ก่อนหน้า 

สกอตตี้ เชฟเฟลอร์ แชมป์ปีที่แล้วอาจอยู่นอกสายตาใครหลายคน จนกระทั่งคว้าแชมป์ ฟีนิกซ์ โอเพ่น 2022 และโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี จากนั้นคว้าแชมป์ อาร์โนลด์ พาล์เมอร์ อินวิเตชั่นแนล ในอีกเกือบเดือนต่อมา ซึ่งไม่หยุดเท่านั้น เพราะยังเป็นแชมป์ เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิพ เดลล์ เทคโนโ,ยี แมตช์เพลย์ อีกรายการ เข้าสู่ เดอะ มาสเตอร์ส 2022 ด้วยฟอร์มอันร้อนแรง แม้ในช่วงปลายปีแผ่วไปเล็กน้อย จนโดนชิงพื้นที่มือ 1 โลก แต่ต้นปีนี้ เชฟเฟลอร์ กลับมาทวงตำแหน่งอีกครั้ง 

โปรชาวอเมริกันป้องกันแชมป์ ฟีนิกซ์ โอเพ่น เมื่อ 12 ก.พ. ที่ผ่านมา จากนั้นคว้าแชมป์ เดอะ เพลเยอร์ส แชมเปี้ยนชิพ ด้วยสกอร์ที่ห่างจาก ทายเรลล์ ฮํตตัน 5 สโตรก แม้ไม่ได้แชมป์แมตช์เพลย์ ตามที่แฟนๆ และกูรูทั้งหลายอยากเห็นคู่ชิงในฝันกับ รอรี่ แม็คอิลรอย แต่ก็ได้แข่งชิงอันดับ 3 และจาก 2 แชมป์ในปีนี้ ไม่มีทางที่จะตัดชื่อ เชฟเฟลอร์ ออกไปได้

รอรี่ แม็คอิลรอย ผู้ช่วงชิงตำแหน่งมือ 1 โลกในปลายปี 2022 จากความพยายามที่จะคว้าแชมป์เมเจอร์อีกสมัย หลายครั้งครา ถัดจาก ดิ โอเพ่น 2014 ซึ่งผ่านมาเนิ่นนาน แต่หากได้ติดตามผลงานใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ปี 2022 เป็นช่วงที่โปรจากไอร์แลนด์เหนือเฉียดใกล้เมเจอร์ ใกล้แล้ว ใกล้มาก แค่ยังไม่ได้ 

พื้นฐานของ แม็คอิลรอย เป็นโปรที่ตีได้ไกล สมัยเป็นดาวรุ่งทุกคนรู้ดีว่าเขามีอนาคตสดใส และในวัย 33 ซึ่งไม่มากเกินไปสำหรับนักกอล์ฟ เขากลับมาอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของอาชีพอีกครั้ง เริ่มต้นด้วยการเฉียดแชมป์ ดูไน ดีเสิร์ท คลาสสิค รอบสุดท้ายหลุมสุดท้ายเขาตีช็อต 2 ตกน้ำ ทำให้ต้องเล่นช็อตแก้ไข หย่อนไปสโตรกเดียวก็จะได้เข้าเพลย์ออฟชิงแชมป์ จากนั้นใน เดอะ มาสเตอร์ส เขาทำรอบสุดท้ายอันยอดเยี่ยม 64 ช็อต ไม่มีโบกี้ พุ่งขึ้นมาจบอันดับ 2 เป็นรอง เชฟเฟลอร์ แต่มาคว้าแชมป์ในเดือนมิ.ย. ที่ อาร์บีซี แคนาเดี้ยน โอเพ่น เร่งฟอร์มแรงจัดในรอบสุดท้าย เอาชนะ โทนี่ ฟิเนา ไปได้ 

ดิ โอเพ่น 2022 แม็คอิลรอย ขึ้นเป็นผู้นำร่วมกับ วิคเตอร์ ฮอฟแลนด์ ในรอบสาม รอบสุดท้ายเห็นได้ชัดว่าเขามีทั้งประสบการณ์ และความห้าวหาญ เน้นเกมบุกเพื่อหวังแชมป์ น่าเสียดายที่จบด้วยอันดับ 3 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี ฤดูกาล 2022 เขาสามารถจบในตำแหน่งท็อป 10 ทุกเมเจอร์ ปลายเดือนส.ค. ปีเดียวกัน ใน เดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ โปรวัย 32 ในตอนนั้น เฉือนเอาชนะ เชฟเฟลอร์ และ ซองแจ อิม เพียงสโตรกเดียว พร้อมกับแชมป์ เฟ็ด เอ็กซ์ คัพ 3 สมัย มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยฟอร์มที่สม่ำเสมอ และมีแชมป์ติดมืออยู่บ้างทำให้กลับขึ้นเป็นมือ 1 โลกอีกครั้ง

ต้นปี 2023 แม็คอิลรอย ไม่พลาดท่าใน ดูไบ ดีเสิร์ท คลาสสิก แล้ว สองหลุมสุดท้ายเขาทำเบอร์ดี้ เฉือน แพทริค รี้ด เพียงช็อตเดียว และคว้าอันดับ 3 ในรายการ แมตช์เพลย์ เอาชนะ เชฟเฟลอร์ ได้ ดังนั้นเมื่อรายการเมเจอร์มาถึง ไม่มีใครมองข้ามอันดับ 2 ของโลกอย่างแน่นอน

อันดับ 3 ของโลกอย่าง จอน ราห์ม ก็เป็นที่พูดถึงเช่นกัน ในฐานะที่เคยได้แชมป์เมเจอร์ เป็นแชมป์มาแล้ว 3 รายการในปีนี้ และจบด้วยท็อป 10 มากถึง 6 รายการ เพียงแค่ฟอร์มในเดือนที่ผ่านมาก่อนเข้าถึง เดอะ มาสเตอร์ส แผ่วไปบ้าง แต่ในโลกที่ดวลกันด้วยวงสวิง ไม่มีอะไรแน่นอน 

อีกหนึ่งม้ามืด จอร์แดน สปีธ อดีตมือ 1 โลกและแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2015 เมเจอร์แรกในอาชีพ แม้ผ่านมานาน แต่เชื่อได้เลยว่าความทรงจำในวันนั้นยังติดแน่นในใจ ด้วยสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เป็นผู้นำในรอบแรก 64 ช็อต นำหน้าอันดับ 2 ถึง 3 ช็อต ที่จริงเขาแทบจะทำลายทุกสถิติ รอบถัดมา 36 หลุม 14 อันเดอร์พาร์ 130 ทุบสถิติ 13 อันเดอร์พาร์ 130 ของ เรย์มอนด์ ฟลอยด์ ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 1976 และ 16 อันเดอร์พาร์ 200 เมื่อผ่านไป 54 หลุม วันสุดท้าย โบกี้หลุม 18 ทำให้ไม่สามารถทุบสถิติ 18 อันเดอร์พาร์ของ ไทเกอร์ วูดส์ สำเร็จ แต่ก็เป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ที่เป็นแชมป์รายการนี้ แม้ปัจจุบันเป็นมือ 16 ของโ,กกับฟอร์มที่ขึ้นบ้างลงบ้าง แต่หากประเดิมได้อย่างสวยงาม ไม่มีใครกล้าตัดชื่อเขาออกไปแน่นอน

นอกจากนี้ เมเจอร์ ทั้งหลายยังเป็นรายการที่ผู้เล่นจาก ลิฟ กอล์ฟ ลีก สามารถเข้าร่วมได้ ตามเงื่อนไข ซึ่งคะแนนอันดับโลกที่สะสมไว้ และสถานะแชมป์เก่าของผู้เล่นหลายรายที่ตบเท้าเข้ามา ย่อมทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันของผู้เล่น ลิฟ กอล์ฟ และ พีจีเอ ปัญหาก็คือ ลิฟ ไม่ได้มีการแข่งขันจำนวนมากเมื่อเทียบกับ พีจีเอ จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าทุกคนเตรียมความพร้อมมามากน้อยเพียงไหน 

คาเมร่อน สมิธ จากออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตามาก และไม่เกินคาดเมื่อได้แชมป์ ดิ โอเพ่น สมัยล่าสุด อายุยังน้อย สุขุม เล่นไปตามเกมของตัวเอง ขณะที่ เจสัน เดย์ อดีตมือโลกเมื่อปี 2016 ก็เป็นผู้ที่มีลุ้นเสมอ เมื่อเข้าสู่เมเจอร์ ไม่ต้องดูเรื่อยอายุ แต่ประสบการณ์ทำให้เขายังมีผลงานชั้นยอดใน ลิฟ กอล์ฟ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นที่พูดถึงไปอีกนับปีแน่นอน เพราะโอกาสใน เดอะ มาสเตอร์ส เป็นของทุกคนที่มาถึง นี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรีของเหล่าโปรชั้นนำจากทั่วทุกทิศ ลิฟ กอล์ฟ พีจีเอ หรือโปรจากเอเชีย หากทำให้ดีใน 4 วันข้างหน้า เสื้อเขียวทรงเกียรติก็เป็นไปได้ 

เดอะ มาสเตอร์ส เริ่มต้นด้วยเกมอุ่นเครื่องใน พาร์ 3 ทัวร์นาเมนต์ที่บรรดาโปรและครอบครัวจะมาร่วมสนุกกับ 9 หลุมใน ออสกันต้า เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ เช้าวันที่ 6 เม.ย. นี้ เวลา 02.00 น. จากนั้นการแข่งขันจะเริ่มต้น ตั้งแต่เช้าวันที่ 7-11 เม.ย. นี้ ตามเวลาประเทศไทย ทางช่อง SOPTV2 (690)