ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ สนามแห่งภาพความจริง

ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ สนามแห่งภาพความจริง
“ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์” สนามที่จะเปิดภาพความจริงว่า สองสนามที่ผ่านไป ผลงานของ “แอสตัน มาร์ติน” แข็งแกร่งแน่แท้หรือแค่ลวงตา และใครจะมาเป็นส่วนหนึ่งในการขัดขวางแชมป์ของ “เร้ดบูลล์ เรซิ่ง”




ออสเตรเลี่ยน กรังด์ปรีซ์ เป็นการแข่งขันที่แฟนๆ ชาวไทยติดตามเป็นประจำ เนื่องจากเวลารอบคัดเลือกและรอบแข่งขันวันเสาร์อาทิตย์ เป็นช่วงกลางวันที่ทุกคน สามารถนั่งติดบ้าน และชมไปพร้อมๆ กับแฟนๆ จากแดนจิงโจ้ในช่วงเวลาสบายๆ 


หลังจากผ่านไปสองสนาม สนามที่สามมักมีเรื่องราวเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นที่ บาห์เรน และ ซาอุดิอาระเบีย เป็นภาพจริงหรือแค่มหัศจรรย์หนึ่งเดียวที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แม้หลายฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า เร้ดบูลล์ เรซิ่ง ยังเป็นตัวเต็ง จากฟอร์มของสองนักขับที่ไม่มีใครด้อยกว่าใคร แต่ใครจะดีพอมาขัดขาหรือขัดขวาง เมื่อทุกทีมล้วนมีปัญหาต้องแก้ และมีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง และกระทั่งทีมแชมป์ก็มีปัญหาเป็นของตัวเองด้วยเช่นกัน 


การต่อสู้ภายในของ เร้ดบูลล์


หลังจาก แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน คว้าแชมป์โลกสองสมัย เชื่อได้เลยว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันคือ เซอร์จิโอ เปเรซ มีส่วนอย่างมากกับชัยชนะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการถ่วงเวลา ลูอิส แฮมิลตัน ที่ อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ 2021 เมื่อทุกวินาทีมีความหมาย หรือบางสนามที่แฟนๆ ได้ยินทีมออร์เดอร์กับหูผ่านวิทยุสื่อสารซึ่งนำมาเปิดเผยภายหลัง 


ล่าสุดที่ซาอุดิอาระเบีย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบองค์รวม เพื่อความปลอดภัยที่ทีมจะกอบโกยคะแนนมากที่สุดจากอันดับ 1 และ 2 และเพื่อไม่ให้เกิดมะเร็งอันเป็นรอยบาดแผลในซีซั่นที่เหลือ ทั้งสองจึงได้รับคำบอกว่าให้รักษาตำแหน่งของตัวเอง อย่าแซงกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถของ เวอร์สเตปเปน เกิดปัญหาในวันก่อนหน้าด้วย แม้มีเรื่อง Fastest Lap รอบสุดท้ายมากวนใจเล็กน้อย ที่แสดงให้เห็นว่า เวอร์สเตปเปน ไม่ยอมง่าย แต่แนวโน้มที่ทั้งสองจะแข่งขันกันเป็นการภายในก็มีแน่


คริสเตียน ฮอร์เนอร์ หัวหน้าทีมเพิ่งออกมาพูดถึงเรื่องนี้แบบอ้อมๆ เพราะมีคนถามถึงความเป็นไปได้ที่ ลูอิส แฮมิลตัน จะย้ายมาจาก เมอร์ซิเดส ถ้าตอบให้เข้าใจง่ายแบบชาวบ้านก็คือ เท่าที่มี 3 นักขับก็ปวดหัวจะแย่ ทั้งแชมป์โลกชาวดัตช์ และตัวเก๋าเกมที่มีศักยภาพพอจะคว้าแชมป์โลกได้อย่าง เปเรซ ซึ่งมีสัญญาถึงปี 2024 และอย่าลืม แดเนี่ยล ริคคิอาร์โด้ ที่รอคอยโอกาสอยู่เสมอ เท่านี้ก็คร่ำเคร่งแล้ว


ใครจะหยุด แอสตัน มาร์ติน


เฟร์นานโด อลอนโซ่ ขึ้น 2 โพเดียมติดต่อกันใน 2 สนามแรก ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่า ชาร์ลส์ เลอแกลร์ ออกจากการแข่งขันในสนามแรกที่ บาห์เรน ก็เอื้อประโยชน์ให้พอสมควร เพราะมันส่งผลถึงสนามถัดมาที่ เฟอร์รารี่ จำเป็นต้องปรับแต่งอะไหล่และเครื่องยนตร์จนโดนถอยอันดับออกสตาร์ทไปไกล และจบด้วยอันดับ 7 เท่านั้น 


ปัญหาก็คือ เฟอร์รารี่ กำลังทดลองอะไรใหม่ๆ กับการมาของ เฟรเดริก วาสเซอร์ หัวหน้าทีมใหม่ ทีมงานใหม่ ที่คาดว่าจะดีกว่าเดิม แต่ถ้าภายในอีก 5-6 สนามนี้ เฟอร์รารี่ ไม่ได้ขึ้นไปร่วมลุ้นแชมป์ ก็เป็นไปได้ที่นักขับทั้งสองจะเริ่มคิดอะไรบางอย่าง การเป็นที่ 4 ที่ บาห์เรน ของ คาร์ลอส ไซนซ์ ก็ดูไม่แย่ แต่ถ้ามองเวลาที่ต่างกัน 10 วินาที นี่คือช่องว่างขนาดใหญ่ 


เมอร์ซิเดส แชมป์โลก 8 สมัยซ้อนในประเภททีมก็ยังประสบปัญหากับทั้งการออกแบบรถและเครื่องยนตร์ในยุคพลังงานสะอาด รวมถึงมีเรื่องตะขิดตะขวงใจกับ ลูอิส แฮมิลตัน เล็กน้อย ซึ่งหากใครจะมองว่าปกติก็ปกติ แต่เชื่อได้เลยว่ามันมีประเด็นอยู่บ้าง ซึ่งมองในภาพรวม การอยู่อันดับ 2 ร่วมกับ แอสตัน มาร์ติน 38 คะแนน ตามหลัง เร้ดบูลล์ เรซิ่ง เป็นเท่าตัว ไม่เพียงพอ พวกเขาผิดหวังมามากตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ถึงเวลาหรือยังที่ต้องกลับมา 


ไมค์ เอลเลียต ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคยืนยันว่า เมอร์ซิเดส จะไปถึงจุดที่ลุ้นแชมป์ แม้ผลงานในสองสนามที่ผ่านมาเป็นเหมือนภาพความจริงอันเจ็บปวด แต่เขายืนยันว่า ทุกคนในทีมยังมีทัศนคติและความเชื่อที่มากพอจะเดินหน้าต่อไปให้ได้ และเชื่อด้วยว่า ยังมีบางสนามข้างหน้า ที่จะเข้าทาง เมอร์ซิเดส ดังนั้นการต่อสู้เพื่อท็อป 4 ยังอีกยาวไกล 



ฮีโร่ คนใหม่ที่จะเป็นรุกกี้ผู้คว้าคะแนนแรก


การแข่งขันที่ออสเตรเลียทำให้ทุกสายตาของแฟนๆ พุ่งไปที่ แม็คลาเรน ซึ่งตอนนี้มีหัวหน้าทีม อันเดรีย สเตลล่า และยังไม่มีคะแนนจากสองสนามแรก หลังจากเปลี่ยนฝ่ายเทคนิค 3 ตำแหน่ง กับความมั่นใจว่าพวกเขามีรถที่ดี ดีกว่าผลงานที่ออกมา เพียงแค่โชคไม่ดีกับการต้องออกจากรอบคัดเลือก Q3 ในซาอุดิอาระเบีย ทั้งที่พารถเข้าไปถึงได้แล้ว


นอกจากนี้ แม็คลาเรน ยังสร้างดราม่าตั้งแต่ซีซั่นก่อนที่ไปทาบทาม ออสการ์ ปิอัสตรี มาจากทีม อัลพีน ปิอัสตรี เดินทางไกลจากบ้านเกิดที่เมลเบิร์นไปแสวงโชคในวงการรถซิ่งที่ยุโรปตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี เป็นนักขับที่ร่ำลือกันว่ามีพรสวรรค์ด้วยเส้นทางที่คล้ายกับรุ่นพี่อย่าง ชาร์ลส์ เลอแกลร์ คว้าแชมป์ F3 และ F2 ในปีต่อกัน แต่แทนที่จะได้ขึ้นสู่ F1 ในทันที อัลพีน ติดสัญญากับ เอสเตบัน โอคอน และ เฟร์นานโด อลอนโซ่ ซึ่งคนหลังพยายามบอกอยู่เสมอว่าเขายังไม่หมดไฟ ไม่หมดแรง และจะอยู่ไปเรื่อยๆ ทำให้ ปิอัสตรี หาทางออกด้วยการข้ามค่าย


ที่ อัลเบิร์ต พาร์ค จะมีแฟนๆ กว่า 420,000 คนตลอดทั้ง 4 วันมาส่งเสียงเชียร์ พร้อมกับความหวังว่า ปิอัสตรี จะเป็นรุกกี้คนแรกในซีซั่นนี้ที่มีคะแนนติดมือ เพราะทั้ง นิค เดอ ฟรีส และ โลแกน ซาร์เจนท์ แม้ทำอันดับได้น่าพอใจในสนามก่อนหน้า แต่ยังไม่มีใครตีไข่แตกได้ 


ปิอัสตรี จะได้รับเสียงเชียร์ล้นหลามเหมือนอย่างที่ แดเนี่ยล ริคคิอาร์โด้ เคยได้รับ น่าเสียดายเล็กน้อยที่ ริคคิอาร์โด้ คงไม่ได้ลงขับ เพราะทั้ง เวอร์สเตปเปน และ เปเรซ สมบูรณ์ดี 


ทุกคนล้วนอยู่ในลูวิ่งของตัวเอง แต่คงไม่มีใครไม่เหลือบมองลู่วิ่งข้างๆ หรือหันมองข้ามไหล่ไปว่าข้างหลังจะตามมาเมื่อไร การแข่งขันที่ทุกคนทั้งแข่งกับตัวเองและรถคันอื่น ติดตามได้ตั้งแต่รอบซ้อมรอบแรก เวลา 08.30 น. ของวันที่ 31 มี.ค. รอบคัดเลือก 12.00 น. วันที่ 1 เม.ย. และรอบแข่งขัน เวลา 12.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ทางช่อง บีอินสปอร์ตส์ 1 (607) 




Getty

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial