ศึกแดงเดือดหงส์ยังเหนือกว่า น่าทุบชนะปีศาจแดงนั่งจ่าฝูงต่อ

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ยูไนเต็ด
สนาม : แอนฟิลด์
เวลา : 23.30 น. อาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ฟอร์มสุดยอดมากในช่วงหลัง หากว่าไม่นับเกม ยูโรป้า ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ใช้ทีมชุดสำรองบุกไปพ่าย อูนิยง แซงต์-ชิลลัวส์ 2-1 ซึ่งไม่มีผลอะไรแล้ว ก่อนหน้านั้นพวกเขาแพ้แค่เกมเดียวจากการลงเล่น 14 เกมหลังสุดในทุกรายการ และถ้านับเฉพาะผลงานในพรีเมียร์ลีก พวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้ว 9 เกมติด โดยเป็นการชนะ 6 เสมอ 3 ผลงานในเกมล่าสุดคือการบุกไปเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้เก็บไปแล้ว 37 แต้มจาก 16 เกม กระโดดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีกในที่สุด แต่ก่อนเตะกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นัดนี้ ต้องดูว่า อาร์เซน่อล ที่แข่งไปก่อนจะชนะหรือไม่ ถ้าทีมปืนใหญ่ชนะ ลิเวอร์พูล ก็ต้องชนะในเกมนี้ให้ได้เท่านั้น ถึงจะกลับไปนำเป็นจ่าฝูงต่อ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหน้าเดิมๆ เมื่อเกมนี้จะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง ดีโอโก้ โชต้า, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, สเตฟาน บายเซติช, โฌแอล มาติป และ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ที่เหลือไม่มีปัญหา โดยคาดว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบการเล่น 4-3-3 ตามเดิม แนวรุกจะใช้งาน 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง หลุยส์ ดิอาซ, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงล่าตาข่ายเหมือนเดิม

แมนฯ ยูไนเต็ด
ยังคงเป็นทีมที่ฟอร์มขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้เหมือนเดิม ล่าสุดพวกเขาแพ้ไป 3 จาก 4 เกมหลังสุดในทุกรายการ และยังแพ้มาตลอดใน 2 เกมหลังสุด โดยผลงานในเกมล่าสุดคือเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พ่ายคาบ้านต่อ บาเยิร์น มิวนิค ไป 0-1 ทำให้จบอันดับบ๊วยและกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็แพ้คาบ้านต่อ บอร์นมัธ ไปอย่างขาดลอย 0-3 ทำให้ตอนนี้มีเพียง 27 คะแนนจากการลงเล่น 16 นัด รั้งอยู่อันดับ 7 ของตาราง และถ้าหากเกมนี้พวกเขายังบุกมาแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล อีก นอกจากจะเป็นการแพ้ 3 เกมติดต่อกันในทุกรายการแล้ว ยังจะมีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่างหงส์แดงไกลถึง 13 คะแนนเต็มอีกด้วย

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บอย่างหนัก โดยจะยังไม่มี ไทเรลล์ มาลาเซีย, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, กาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น, เมสัน เมาท์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมด แถมกองกลางคนสำคัญอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็ยังมาติดโทษแบนในนัดนี้ แต่อย่างไรก็ตามยังมีข่าวดีอยู่บ้าง นั่นคือเกมนี้น่าจะได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาเป็นตัวจริงได้อีกครั้งหลังจากที่หายป่วย ทำให้เกมนี้คาดว่าทีมปีศาจแดงจะยังคงมาในระบบการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม มี ราสมุส ฮอยลุนด์ ยืนเป็นหน้าเป้า ขณะที่ตัวสนับสนุนจะประกอบไปด้วย มาร์คัส แรชฟอร์ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ โดยมี โซฟียาน อัมราบัต คุมแดนกลางร่วมกับ ค็อบบี้ ไมนู

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, คอสตาส ซิมิคาส : โดมินิก โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ค : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อังเดร โอนาน่า : อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ เรกีล่อน : ค็อบบี้ ไมนู, โซฟียาน อัมราบัต : มาร์คัส แรชฟอร์ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, อเลฮานโดร การ์นาโช่ : ราสมุส ฮอยลุนด์

ความน่าจะเป็น : เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีก็จริง แต่ฟอร์มที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เหนือกว่ามากๆ แถมเกมนี้ยังได้เปรียบจากการได้เล่นในบ้าน ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด นอกจากฟอร์มการเล่นจะเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้แล้ว ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บเล่นงานเพียบอีก และยังไม่มี บรูโน่ ในเกมนี้เนื่องจากโดนแบน ดูแล้วเกมนี้ถ้า ลิเวอร์พูล ไม่ได้เล่นแย่กันไปเอง ก็แทบจะมองไม่เห็นจะว่าจะแพ้ได้อย่างไร รูปเกมน่าจะเป็นเจ้าถิ่นที่ครองบอลบุกได้มากกว่า สำคัญที่เกมรุกต้องใช้โอกาสไม่เปลือง ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามคาด ทีมหงส์แดงน่าจะเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากนัก

สกอร์ที่คาด : ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1