เรือใบปะทะหงส์แดงสุดสูสี แต่เจ้าถิ่นยังดูเหนือกว่าเล็กน้อย

เรือใบปะทะหงส์แดงสุดสูสี แต่เจ้าถิ่นยังดูเหนือกว่าเล็กน้อย
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล โดยเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เจ้าถิ่น อยู่ในฟอร์มที่ค่อนข้างดี หลังไม่แพ้ใครมา 6 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ แม้ว่าเกมล่าสุดจะหลุดเสมอ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเสียหายมากมายนัก ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีช่วงฟอร์มหลุดไปบ้างแต่ก็เล็กน้อย และเกมนี้พวกเขาก็หวังที่จะบุกมาเอาชนะทีมเรือใบสีฟ้า เพื่อขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีกให้ได้

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ พบ ลิเวอร์พูล
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เวลา : 19.30 น. วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังไม่แพ้ใครมาแล้ว 6 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยเป็นการชนะ 5 เสมอ 1 อย่างไรก็ตามในเกมล่าสุดก่อนที่จะเข้าช่วงเบรกทีมชาตินั้น พวกเขาทำได้แค่บุกไปเสมอกับ เชลซี 4-4 ในเกมพรีเมียร์ลีก ทำให้เก็บได้แค่แต้มเดียว แม้ว่าจะยังนำเป็นจ่าฝูงแต่ก็นำหน้าอันดับ 2 อย่าง ลิเวอร์พูล เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น ทำให้เกมนี้ถือเป็นเกมที่สำคัญมากๆ เพราะพวกเขาจะพลาดท่าพ่ายต่อทีมหงส์แดงในเกมนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเสียตำแหน่งจ่าฝูงทันที

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะบาดเจ็บหลายราย โดยจะไม่สามารถใช้งานผู้เล่นอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ที่ยังบาดเจ็บยาว รวมไปถึงในรายของ จอห์น สโตนส์, เซร์คิโอ โกเมซ และ มาเตโอ โควาซิช ที่ยังบาดเจ็บอยู่ทั้งหมด แต่ที่เหลือนั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด และข่าวดีคือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ฟิตทันลงเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ฮูเลียน อัลวาเรซ ในระบบการเล่น  3-4-2-1

ลิเวอร์พูล
ทีมหงส์แดงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจากที่ฟอร์มสะดุดมา 2 เกมติดต่อกัน พวกเขาก็กลับมาแก้ตัวได้ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเบรกทีมชาติ เมื่อเปิดบ้านเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ไปขาดลอย 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ประกอบกับการที่ แมนฯ ซิตี้ สะดุดเสมอกับ เชลซี ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล เก็บไปแล้ว 27 แต้มจาก 12 เกม ขึ้นมารั้งอันดับที่ 2 ตามหลังทีมจ่าฝูงอย่าง แมนฯ ซิตี้ เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น นั่นทำให้เกมนี้พวกเขามีลุ้นแซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงได้เลย หากว่าบุกชนะทีมเรือใบสีฟ้าได้สำเร็จ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น ลิเวอร์พูล จะยังไม่สามารถใช้งาน ติอาโก้ อัลกันตาร่า, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และ สเตฟาน บายเซติช ที่บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ในรายอื่นๆ นั้นไม่มีปัญหา โดยคาดว่าเกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบการเล่น 4-3-3 ตามเดิม แนวรุกจะใช้ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ ดีโอโก้ โชต้า ส่วนในแดนกลาง อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ น่าจะได้เล่นร่วมกับ โดมินิก โซโบซไล และ ไรอัน กราเฟนแบร์ก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (3-4-2-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : ฟิล โฟเด้น, โรดรี้, มานูเอล อาคานจี, เฌเรมี่ โดกู : ฮูเลียน อัลวาเรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบคเกอร์ : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ : โดมินิก โซโบซไล, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ก : โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, ดีโอโก้ โชต้า

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมที่สูสี และออกได้ทั้งสามหน้า อย่างไรก็ตาม แมนฯ ซิตี้ ยังได้เปรียบจากการเล่นในบ้าน รวมถึงฟอร์มการเล่นนช่วงที่ผ่านมาก็ดูจะไว้ใจได้ มากกว่าทาง ลิเวอร์พูล ที่ยังดูมีปัญหาอยู่บ้าง รูปเกมน่าจะออกมาสูสีกัน แต่เชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ จะเป็นฝ่ายที่ครองเกมได้มากกว่า และถ้าหากว่าไม่ใช้โอกาสเปลืองกันไปเอง ก็เชื่อว่า แมนฯ ซิตี้ ยังเป็๋นฝ่ายที่มีโอกาสเอาชนะในเกมนี้ได้มากกว่า ลิเวอร์พูล อยู่ดี

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1

ภาพจาก Getty Images

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร :

Website : www.truevisions.co.th

Facebook : Truevisions

Twitter : @TrueVisions

Line : @Truevisions

Youtube official : Truevisionsofficial

Instagram : Truevisionsofficial