เรือใบสีฟ้ามาเยือนยังเหนือกว่า น่าบุกเฉือนเชลซีแบบหวุดหวิด

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 23.30 น. วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602), True 4K (ช่อง 400)

เชลซี
เชลซี ภายใต้การนำของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ หลังล่าสุดแพ้ไปแค่เกมเดียวจาก 7 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ที่เหลือเป็นการชนะไป 5 และเสมอแค่ 1 ขณะที่ผลงานในเกมพรีเมียร์ลีกนั้น ถือว่าทำได้ดีขึ้นมาก หลัง 5 เกมหลังสุดชนะไป 3 เสมอ 1 แพ้ 1 เกมล่าสุดถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง นั่นคือการบุกไปถล่ม สเปอร์ส ขาดลอย 4-1 ส่งผลให้ตอนนี้ทีมสิงห์บลูส์เก็บเพิ่มเป็น 15 แต้มจาก 11 เกม ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 10 แล้ว แต่วันนี้จะเป็นอีกเกมที่เป็นบทพิสูจน์ว่า เชลซี ชั่วโมงนี้เป็นทีมที่มีคุณภาพมากแค่ไหน เมื่อต้องรับมือจ่าฝูงอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่มาตรฐานการเล่นสูงลิบ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดของ เชลซี นั้น ยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บกันพอสมควรเหมือนเดิม โดยพวกที่ยังเจ็บอยู่และลงเล่นไม่ได้อย่างแน่นอนนั้นประกอบไปด้วย คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เบน ชิลเวลล์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เทรโวห์ ชาโลบาห์, แคร์นี่ย์ ชุควูเมก้า, โรเมโอ ลาเวีย และ อาร์มันโด้ โบรย่า ทำให้เกมนี้ โปเช็ตติโน่ น่าจะยังยึดผู้เล่นชุดเดิมๆ เป็นหลัก ในระบบ 4-2-3-1 เกมรุกจะใช้ นิโกล่าส์ แจ็คสัน ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมี โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นตัวสนับสนุน

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยมีช่วงที่ฟอร์มสะดุด แพ้ 3 นัดในรอบ 4 เกมรวมทุกรายการ แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาเล่นได้ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างที่เคยเป็นแล้ว หลังชนะมา 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยผลงานในเกมล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม ยัง บอยส์ ขาดลอย 3-0 ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนผลงานในเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดนั้น คือการเปิดบ้านถล่ม บอร์นมัธ 6-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ตอนนี้พวกเขาเก็บไปแล้ว 27 แต้มจาก 11 เกม นำเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ และเกมนี้พวกเขาก็ต้องการ 3 แต้ม เพื่อฉีกหนี อาร์เซน่อล ที่ไล่จี้มาติดๆ อยู่ในเวลานี้

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีนักเตะบาดเจ็บไม่มากนัก โดยจะไม่มี เควิน เดอ บรอยน์ ที่ยังบาดเจ็บยาว รวมไปถึงในรายของ จอห์น สโตนส์, เซร์คิโอ โกเมซ และ มานูเอล อาคานจี นอกนั้นไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยนัดนี้เกมรุกจะยังคงเป็น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม และมีตัวสนับสนุนอย่าง แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ ฮูเลียน อัลวาเรซ ในระบบการเล่น  3-4-2-1

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ : รีซ เจมส์, อักเซล ดิซาซี่, ติอาโก้ ซิลวา, ลีวาย โคลวิลล์ : มอยเซส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ : โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง : นิโกล่าส์ แจ็คสัน

แมนฯ ซิตี้ (3-4-2-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล : ฟิล โฟเด้น, โรดรี้, มาเตโอ โควาซิช, เฌเรมี่ โดกู : ฮูเลียน อัลวาเรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ความน่าจะเป็น : ถ้าว่ากันตามชื่อชั้นถือว่าเป็นการเจอกันระหว่างสองทีมใหญ่ แต่ถ้าดูที่ฟอร์มการเล่นก็ต้องยอมรับว่า เชลซี ยังเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ อยู่ค่อนข้างมาก อาจจะได้เปรียบแค่เรื่องการได้เล่นในบ้านต่อหน้าแฟนๆ ของตัวเองเท่านั้น แต่จากการที่พวกเขาบุกไปชนะ สเปอร์ส มาได้ในเกมก่อน ก็น่าจะเพิ่มความมั่นใจได้มาก อย่างไรก็ตาม ทีมเรือใบสีฟ้าก็ยังน่าจะเป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่า และสุดท้ายแล้วจะอาศัยแท็คติกและเกมรุกที่เฉียบคมกว่า บุกมาเอาชนะไปได้ แต่สกอร์อาจจะไม่ขาด

สกอร์ที่คาด : เชลซี แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-2