ไบรท์ตันเล่นในบ้านไม่กดดัน มีลุ้นเสมอเรือใบที่ได้แชมป์ไปแล้ว

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ไบรท์ตัน พบ แมนฯ ซิตี้
สนาม : เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม
เวลา : 02.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 1, 2 (ช่อง 600, 602)

ไบรท์ตัน
ไบรท์ตัน แทบจะการันตีว่าติดอันดับ 6 อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากที่เปิดบ้านเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ได้ 3-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องจากตอนนี้เก็บไปแล้ว 61 แต้ม และมีคะแนนนำอันดับ 7 อย่าง แอสตัน วิลล่า อยู่ 3 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ซึ่งต่อให้แพ้หมดในอีก 2 เกมที่เหลือ และให้ วิลล่า ชนะในเกมสุดท้าย ก็ยังน่าจะเพียงพอต่อการรักษาอันดับ 6 ไว้อยู่ดี เนื่องจาก ไบรท์ตัน มีผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า วิลล่า อยู่ถึง 16 ประตู ถ้าไม่แพ้นัดละ 8 ประตูในอีก 2 เกมที่เหลือก็ไม่มีทางโดนแซง และที่สำคัญ ไบรท์ตัน ไม่มีทางแพ้ขาดด้วยสกอร์แบบนั้นในเกมที่เหลืออย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าจะบอกว่า ไบรท์ตัน ได้อันดับ 6 อย่างไม่เป็นทางการแล้วก็ไม่น่าจะผิดอะไร แต่อย่างไรก็ตาม หากว่าพวกเขาได้อย่างน้อย 1 คะแนนจากโปรแกรมที่เหลือ ก็จะการันตีอันดับ 6 อย่างเป็นทางการทันที

ในส่วนของสภาพทีม ไบรท์ตัน ถือว่ามีตัวเจ็บหลายราย โดยเกมนี้จะยังไม่มี อดัม ลัลลาน่า, เจเรมี่ ซาร์เมียนโต้, ทาริค แลมป์ตี้ย์, ยาคุบ โมลเดอร์, ซอลลี่ มาร์ช และ อดัม เว็บส์เตอร์ ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา พร้อมลงสนาม โดยแนวรุกจะเป็น อีแวน เฟอร์กูสัน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า และมีตัวสนับสนุนเกมรุกอย่าง คาโอรุ มิโตมะ, ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้เป็นที่เรียบร้อย ทำให้โปรแกรมที่เหลือต่อจากนี้สามารถพักตัวหลักเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมความสดไว้ลุ้นแชมป์ใหญ่อีกสองรายการที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศที่จะพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันที่ 3 มิถุนายน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 10 มิถุนายน ซึ่งถ้าหากพวกเขาทำได้ ก็จะกลายเป็นทีมจากอังกฤษทีที่สองในประวัติศาสตร์ที่คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ ต่อจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เคยทำได้เมื่อปี 1998-99 ขณะที่ฟอร์มของทีมเรือใบสีฟ้าในช่วงที่ผ่านมาก็โหดสุดๆ หลังจากที่ไม่แพ้ใครมา 24 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้วในทุกรายการ โดยเป็นการชนะ 20 เสมอ 4 และถ้าหากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว พวกเขาชนะมา 12 เกมติดต่อกันแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ มีทีมที่สมบูรณ์มาก โดยจะไม่มีเพียงแค่ เนธาน อาเก้ เพียงรายเดียวเท่านั้นที่มีอาการบาดเจ็บอยู่เล็กน้อย ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด โดยเกมนี้คาดว่า กวาร์ดิโอล่า น่าจะยังมีการโรเตชั่นทีมต่อไป เนื่องจากทีมคว้าแชมป์มาครองแล้ว โดยตัวผู้เล่นน่าจะยังคล้ายๆ เกมนัดก่อนที่มี ฮูเลียน อัลวาเรซ เป็นกองหน้าตัวเป้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง ฟิล โฟเด้น และ ริยาด มาห์เรซ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไบรท์ตัน (4-2-3-1) : เจสัน สตีล : โจเอล เฟลท์มัน, ลูอิส ดังค์, ลีวาย โคลวิลล์, เปร์วิส เอสตูปิญัน : ปาสกาล โกรสส์, มอยเซส ไกเซโด้ : ฮูลิโอ เอ็นซิโซ่, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, คาโอรุ มิโตมะ : อีแวน เฟอร์กูสัน

แมนฯ ซิตี้ (3-4-3) : สเตฟาน ออร์เตก้า : รูเบน ดิอาส, มานูเอล อาคานจี, เอมเมอริก ลาปอร์กต์, มานูเอล อาคานจี : ริโก้ ลูอิส, คาลวิน ฟิลลิปส์, ฟิล โฟเด้น, เซร์คิโอ โกเมซ : ริยาด มาห์เรซ, ฮูเลียน อัลวาเรซ, โคล พาลเมอร์

ความน่าจะเป็น : ทีมเรือใบสีฟ้าไม่น่าจะเน้นอะไรแล้วหลังจากที่คว้าโทรฟี่แชมป์มาครองได้หมาดๆ และน่าจะเน้นรักษาสภาพความสดของตัวผู้เล่นตัวหลักเอาไว้ เพื่อลุ้นแชมป์ในอีกสองรายการที่เหลือ ขณะที่ ไบรท์ตัน ก็แทบจะการันตีในการคว้าอันดับ 6 แล้ว แต่เพื่อความแน่นอนถ้าได้อีก 1 คะแนนก็จะคว้าโควต้าไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก อย่างเป็นทางการในทันที เชื่อว่าเกมนี้ ไบรท์ตัน น่าจะเล่นด้วยความมั่นใจ ประกอบกับการเล่นในบ้าน รวมถึง แมนฯ ซิตี้ อาจจะไม่ได้เน้นอะไรมากแล้ว ทำให้ ไบรท์ตัน น่าจะมีลุ้นแบ่งแต้มได้ในเกมนี้

สกอร์ที่คาด : ไบรท์ตัน เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1