เรือใบสีฟ้าเดินเครื่องเต็มสูบ หวังชนะปืนใหญ่เพื่อเดินหน้าสู่แชมป์

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ซิตี้ พบ อาร์เซน่อล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เวลา : 01.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2566 (แข่งคืนวันพุธ)
ถ่ายทอดสดทาง : True Premier Football 4 (ช่อง 604)

แมนฯ ซิตี้
ทีมเรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม หลังจากที่ไม่แพ้ใครมา 16 เกมติดต่อกันแล้วในทุกรายการ โดยเป็นการชนะ 13 เสมอ 3 และในจำนวนนี้ยังมีช่วงที่ชนะ 10 เกมติดต่อกันด้วย และถ้าหากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว พวกเขาชนะมา 6 เกมติดต่อกันแล้ว โดยผลงานในเกมลีกนัดล่าสุดคือการเปิดบ้านถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ตอนนี้ทำแต้มไล่ อาร์เซน่อล มาเหลือเพียง 5 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าถึง 2 นัด ส่วนในรายการอย่าง แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย ขณะที่ เอฟเอ คัพ ก็ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแล้วเช่นกัน เรียกได้ว่าตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์แบบเต็มๆ และมีโอกาสที่จะทำได้ด้วย เมื่อดูจากแนวโน้มที่เกิดขึ้น

ในส่วนของสภาพทีมล่าสุดนั้น แมนฯ ซิตี้ จะไม่มีแค่ เนธาน อาเก้ เพียงคนเดียวที่ยังบาดเจ็บ แต่ส่วนที่เหลือไม่มีปัญหา ฟิตพร้อมลงสนามทั้งหมด เรียกว่ามีทีมที่สมบูรณ์มากๆ โดยเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะจัดผู้เล่นชุดใหญ่แบบเต็มสูบ โดยเกมรุกยังนำโดย เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยืนปักหลักเป็นกองหน้าตัวเป้า และมีตัวสนับสนุนอย่าง ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ แจ็ค กรีลิช ในระบบ 3-2-4-1

อาร์เซน่อล
หลังจากที่ชนะในเกมลีกมาอย่างต่อเนื่อง 7 เกมติดต่อกัน อยู่ดีๆ อาร์เซน่อล ก็มาสะดุดทำแต้มหก 3 เกมติดต่อกันซะอย่างนั้น โดยเป็นการเสมอ 3 เกมติด และแต่ละเกมมีโอกาสจะเก็บ 3 แต้มได้ทั้งนั้น แต่ที่เสมอส่วนใหญ่แล้วเกิดจากเล่นพลาดของตัวเอง โดยเกมล่าสุดทำได้แค่เสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 แบบที่เกือบแพ้คาบ้านอีกด้วย เนื่องจากโดนนำไปก่อน 3-1 แต่มาไล่ตีเสมอได้ทันก่อนจบเกม ทำให้ตอนนี้ ทีมปืนใหญ่ มีอยู่ 75 แต้มจากการลงเล่น 32 นัด ทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่เพียง 5 คะแนน แต่ทีมเรือใบสีฟ้าแข่งน้อยกว่า 2 นัด ทำให้เกมนี้พวกเขาจะแพ้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด และถ้าจะให้ดีควรต้องชนะด้วย เพื่อที่จะทำให้การลุ้นแชมป์ยังอยู่ในมือของตัวเอง

ในส่วนของสภาพทีม อาร์เซน่อล จะยังไม่มี โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, วิลเลี่ยม ซาลิบา และ ทาเคฮิโร่ โทมิยาสึ ที่ยังบาดเจ็บทั้งหมดเหมือนเดิม แต่ที่เหลือไม่มีปัญหา พร้อมลงสนามในระบบการเล่น 4-3-3 ตามถนัด โดยสามประสานในแนวรุกจะเป็น กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, กาเบรียล เชซุส และ บูคาโย่ ซาก้า โดยที่มี มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นเพลย์เมคเกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ซิตี้ (3-2-4-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส : จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เอเมอริก ลาปอร์กต์ : อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้ : ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

อาร์เซน่อล (4-3-3) : อารอน แรมส์เดล : เบน ไวท์, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ : มาร์ติน โอเดการ์ด, โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาค่า : บูคาโย่ ซาก้า, กาเบรียล เชซุส, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ความน่าจะเป็น : เป็นเกมตัดสินแชมป์แบบไม่เป็นทางการเลยก็ว่าได้สำหรับเกมนี้ เนื่องจากผลแพ้ชนะมีผลอย่างมากต่อทีมที่จะมีโอกาสก้าวไปเป็นแชมป์ โดย แมนฯ ซิตี้ จะเน้นเป็นอย่างมากแน่นอนสำหรับเกมนี้ เพราะถ้าพวกเขาชนะ จะทำแต้มไล่มาเหลือ 2 แต้ม โดยที่ยังแข่งน้อยกว่า 2 นัด ถ้าหากเก็บนัดที่เหลือได้ทั้งหมดก็จะเป็นแชมป์ทันที ขณะที่ อาร์เซน่อล ไม่มีทางเลือก ต้องชนะสถานเดียวเพื่อทำให้โอกาสเป็นแชมป์ยังอยู่ในมือของตัวเอง แต่ถ้าทำได้แค่เสมอหรือแพ้ ก็ต้องไปลุ้นให้ แมนฯ ซิตี้ พลาดบ้างในเกมที่เหลือ ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะเรือใบสีฟ้ามาแรงมากจริงๆ และเกมนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะชนะทีมปืนใหญ่ไปได้อีกครั้ง

สกอร์ที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ อาร์เซน่อล 3-1