คล็อปป์สุดเซ็งหงส์พ่ายเรือยับ ชี้ไม่มีข้อดีอะไรเลยในเกมนี้

ทีมหงส์แดงมีคิวต้องบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสำคัญเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยความสำคัญในเกมนี้ก็คือ ลิเวอร์พูล ต้องการแต้มเพื่อโอกาสในลุ้นพื้นที่ท็อป 4 ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องการชนะเพื่อไล่ล่า อาร์เซน่อล ต่อไป ซึ่งเกมในครึ่งแรกผ่านไปได้เพียง 17 นาที ลิเวอร์พูล ที่เกมเป็นรองกว่า แต่กลับออกนำได้ก่อนจากจังหวะสวนกลับ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เข้ามาเก็บตกจากจังหวะบังบอลของ ดีโอโก้ โชต้า ก่อนจะยิงด้วยซ้ายเสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ 10 นาทีต่อมา แมนฯ ซิตี้ ก็ตามตีเสมอได้สำเร็จ 1-1 จากการเข้าชาร์จจ่อๆ ของ ฮูเลียน อัลวาเรซ ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

หลังจากนั้นในครึ่งหลัง ถือเป็นหายนะของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง เมื่อ แมนฯ ซิตี้ ไล่ยิงเพิ่มอีก 3 ประตู โดยเริ่มตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลังจาก เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนที่นาทีที่ 53 อิลคาย กุนโดกัน มายิงซ้ำหน้าประตูให้เรือใบสีฟ้านำห่างเป็น 3-1 และมาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจาก แจ็ค กรีลิช ที่ได้บอลเข้าไปยิงจ่อๆ ในเขตโทษ ให้ แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่มหงส์แดงไป 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 64 แต้ม ห่างจากจ่าฝูง อาร์เซน่อล 8 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ขณะที่ ลิเวอร์พูล แพ้เป็นนัดที่ 9 ในฤดูกาลนี้ มีเพียง 42 แต้ม และตามหลังพื้นที่ท็อป 4 อยู่ 7 คะแนน

หลังจบเกม เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์ด้วยความรู้สึกผิดหวัง โดยกล่าวว่า "ครึ่งแรกเป็นเกมที่เราเคยเจอมาก่อนแล้วก่อนหน้านี้เวลาที่เรามาเล่นกันที่นี่ แมนฯ ซิตี้ มักเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า แต่เราก็มีจังหวะของเรา เล่นอย่างเยือกเย็นและสร้างปัญหาให้พวกเขา"

"ประตูขึ้นนำมันยอดเยี่ยมาก เป็นช่วงเวลาที่ดีของเกม แต่เราก็ต้องมาโดนตีเสมอแบบโชคร้ายนิดหน่อย แต่เมื่อเริ่มครึ่งหลังเราก็โดนยิงเพิ่มทันที เราเสียสองประตูอย่างรวดเร็วจนทำให้ทุกอย่างพังทลาย"

"การเสียประตูของเราเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ นอกจากนี้เราก็ไม่ท้าทายพวกเขาได้มากพอเช่นกัน มันเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับจริงๆ แมนฯ ซิตี้ ควบคุมทุกอย่างไว้ได้หลังจากนั้น ช่องว่างของเราเต็มไปหมดจนทำให้พวกเขาจะเล่นอย่างไรก็ได้ พวกเขายิงประตูเพิ่มขึ้น และนั่นคือความแตกต่าง"

"เราอาจจะมีโอกาสอยู่บ้างในเกมนี้ แต่ในภาพรวมเราแพ้ในทุกๆ ส่วนของเกม มีนักเตะอยู่ 4 คนที่ผมคิดว่าเล่นได้โอเค แต่ที่เหลือแล้วผมไม่รู้เลยจริงๆ อีกสามวันต่อจากนี้เราต้องเล่นกับอีกทีมที่แข็งแกร่ง (เยือน เชลซี ในวันที่ 4 เมษายน) พรุ่งนี้จะเป็นวันที่สำคัญ เพราะเราต้องเดินหน้ากันต่อจากสิ่งที่เราได้เห็นในวันนี้"

"ผมมาอยู่ตรงนี้เพื่ออธิบาย แต่ผมมองไม่เห็นข้อดีใดๆ ที่จะพูดถึงในเกมนี้ มันไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เราจะคุยกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแบบวันนี้มันเกิดขึ้นบ่อยเกินไปแล้ว"

สำหรับโปรแกรมลีก 2 นัดถัดไป ลิเวอร์พูล ยังมีงานหนักรออยู่ เมื่อจะต้องบุกไปเยือน เชลซี ในวันอังคารที่ 4 เมษายนนี้ ก่อนจะต้องรับมือจ่าฝูง อาร์เซน่อล ในวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายน ซึ่งถ้าหากทีมหงส์แดงชนะไม่ได้เลยใน 2 เกมนี้ โอกาสที่จะลุ้นพื้นที่ท็อป 4 ก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้นไปทุกที